นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงกรณีการก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่ ว่า ที่ผ่านมาตนและผู้บริหารบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)ได้ชี้แจงเกี่ยวข้อมูลข้อเท็จจริง ที่เกิดขึ้นในก่อสร้างรัฐสภาใหม่หลายที่ รวมทั้งไปชี้แจงในวงจัดเสวนาเกี่ยวกับการก่อสร้างโครงการนี้ ต่อหน้าสื่อมวลชน นักการเมืองและผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ที่สงสัย ซึ่งก็น่าจะชัดเจนแล้ว แต่สุดท้ายก็มีการบางสื่อไปลงข่าวเกี่ยวกับการก่อสร้างรัฐสภาใหม่อีก เพราะมีการโจมตีว่า ตนใช้อิทธิพล มีการทำสัญญาเอาเปรียบภาครัฐ โจมตีโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ทั้งที่สื่อเหล่านี้ไม่เคยมาสัมภาษณ์ไม่ว่าจะเป็นทางตนหรือผู้บริหารโครงการหรือมาขอข้อมูลจากทางบริษัท ตนไม่เข้าใจว่าทำไมถึงกล้านำเสนอ เพราะข้อมูลที่นำมาเขียนเป็นข้อมูลไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง มโนไป บางสื่อมีการวาดรูปตนในทางที่เสียหายทั้งที่ตนไม่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ เป็นเรื่องของบริษัท ซึ่งผู้บริหารก็พร้อมที่จะชี้แจงในทุกเรื่องเกี่ยวกับโครงการนี้
นอกจากนี้บางสื่อเขียนว่า หลังเลือกตั้งคุณอนุทินและบริษัทซิโน-ไทยฯจะมีการฟ้องร้องรัฐเพื่อเรียกค่าเสียหายจากโครงการนี้ ทั้งที่ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลยกับโครงการนี้ ส่วนกรณีที่ตนบอกว่าโครงการก่อสร้างรัฐสภาใหม่ จะเอากล่องไม่เอาเงิน เป็นการเปรียบให้เห็นภาพ ตนอยากจะบอกว่าของบางอย่างบริษัท ผู้รับเหมาอยากทำให้เห็นว่าเราทำได้ เพราะในอนาคตจะเป็นสัญลักษณ์ของประชาธิปไตยและจะอยู่คู่ฟ้าดินไปอีกนับ100 ปี ปัจจุบันการก่อสร้างก็มีความคืบหน้าไปมากเกินกว่าร้อยล่ะ 50 ซึ่งตนมั่นใจเลยว่าโครงการนี้จะแล้วเสร็จตามกำหนดเวลาที่มีการเซ็นสัญญากันไว้ อย่างแน่นอน
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า การนำโครงการนี้มาโจมตีตนนั้น เป็นการหวังผลทางการเมืองมากกว่า ตนไม่เข้าใจเพราะการที่จะโจมตีตนนั้นเอาเรื่องอื่นมาโจมตีตนดีกว่าจะมาเอาเรื่องงานก่อสร้างมาโจมตีตน หรือ กลัวว่าหากตนเข้าไปแล้วจะมีการจับผิดเกี่ยวกับโครงการรัฐหรือไม่ เพราะในเนื้อหาที่โจมตีมุ่งมาที่ตนมากกว่าจะมุ่งไปที่บริษัท ซิโน-ไทยฯ อีกทั้งบริษัทที่ปรึกษาโครงการอธิบายชัดเจนถึงปัญหาและกำหนดการก่อสร้างทั้งหมด หลายสื่อที่ออกมาโจมตีนั้นตนได้ให้บริษัทและที่ปรึกษากฏหมายดำเนินการตามกฏหมายเพราะเป็นเรื่องที่บริษัทและตนได้รับความเสียหาย
“ตนเชื่อว่าความพยายามที่เกิดขึ้นในการโจมตีตนนั้น เกิดมาจากความพยายามต้องการดิสเครดิส ตนให้เสื่อมเสียชื่อเสียงมากกว่า เพราะโครงการก่อสร้างรัฐสภาใหม่ บริษัทเขาชนะการแข่งขันในการประมูลงานมา ไม่เกี่ยวกับตนเพราะตนไม่ได้เป็นผู้บริหารของบริษัทนานแล้ว ตนลาออกมานานแล้ว”
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่าการที่มากล่าวหาว่าครอบครัวของตนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทชิโน-ไทย ทำไมไม่มองว่าเป็นเรื่องของการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุนล่ะครับ ตอนที่จะเข้ามาทำงานการเมืองนั้นตนได้มีการลาออกจากทุกตำแหน่งของบริษัท และตนไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับการบริหารงานของบริษัทแต่อย่างใด ตนมาเข้าการเมืองเพราะตนอยากเอาประสบการณ์ที่ตนมีมาทำงานให้กับประเทศชาติ ส่วนเรื่องการทำงานในการบริหารบริษัท ซิโน-ไทย และการสร้างอาคารรัฐสภารวมทั้งการวางระบบไอที หากมาถามตน ตนจะบอกเลยว่าหากไม่ถนัดก็ให้ถอยออกมาเพราะงานที่ทำก็ให้แล้วเสร็จส่งมอบงานแล้วก็ถอยออกมา
ส่วนการโจมตีตนหรือบริษัทนั้นยืนยันว่าจะดำเนินคดีตามกฏหมายเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีตนเอง เพราะเอาข้อความอันไม่ใช่ข้อเท็จจริงมาลง ซึ่งตนเองก็คงจะดำเนินคดีทางกฏหมายเพื่อปกป้องครอบครัวตัวเอง ที่ตนฟ้องเพราะเขาจะได้ทราบว่าไม่ว่าใครหากไม่มีข้อเท็จจริงแล้วเอาไปพูดก็จะต้องเจอข้อหานี้ อย่ามาใส่ร้ายกัน อย่าคิดว่ามีช่องโทรทัศน์ หรือ เป็นสื่อแล้วคนจะกลัว