นายเอกชัย ไชยนุวัติ นักวิชาการด้านนิติศาสตร์ กล่าวถึงอนาคตทางการเมืองไทย หลังมีนักการเมืองรุ่นใหม่ อาสาเข้ามาแก้ปัญหาชาติ ว่า เป็นเรื่องดี ที่มีตัวเลือกใหม่มาให้เลือกมากขึ้น คนกลุ่มนี้ มีความสดแน่นอน แต่ไม่ได้หมายความว่าคนรุ่นเก่า พรรคเก่าจะตกยุค เพราะที่ผ่านมา ก็เห็นหลายพรรคพัฒนาตัวเองขึ้นมาเป็นตัวเลือกของประชาชน
สำหรับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ตนมองว่ามีความมุ่งมั่นตั้งใจ แต่อยากแนะนำให้นายธนาธรหยุดวิพากษ์พรรคการเมืองเก่าว่าเล่นการเมืองแบบน้ำเน่า เป็นต้นเหตุให้ทหารมายึดอำนาจ เพราะนักการเมืองเหล่านั้น ล้วนชนะการเลือกตั้งเข้ามาทั้งสิ้น ในสภานักการเมืองส่วนใหญ่ ล้วนตั้งใจทำงานรับใช้ประชาชน สิ่งที่นายธนาธร ควรทำคือแทนที่จะตำหนินักการเมืองด้วยกัน ขอให้ไปตำหนิทหารดีกว่า เพราะต่อให้เล่นการเมืองน้ำเน่าอย่างไร ทหารก็ไม่มีสิทธ์มายึดอำนาจ
นายเอกชัย กล่าวต่อว่า สิ่งที่ฝ่ายอยากเลือกตั้งควรจะกดดันให้เกิดขึ้นจริงมากที่สุด คือการให้ทหารยกเลิกคำสั่งห้ามประชุมพรรคการเมือง เพราะในขณะที่เรากำลังบอกว่าจะมีการเลือกตั้ง แต่พรรคการเมืองกลับเตรียมตัวไม่ได้ เสนอนโยบายไม่สะดวก ถึงเวลาหากเปิดให้เลือกตั้งขึ้นมาจริงๆ ด้วยกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่ยิบย่อย อาจทำให้พรรคการเมืองเตรียมตัวไม่ทัน เกิดปัญหาตามมา
ขณะเดียวกัน ก็ต้องกดดันให้ฝ่ายประชาชนได้มีสิทธิ์ มีเสียงเพิ่มขึ้นก่อนการเลือกตั้ง ตรงนี้ ต้องการแนะนำไปถึงรัฐบาลด้วย เพราะหากลงมือทำ จะเป็นภาพสะท้อนของความจริงใจในการจัดการเลือกตั้ง
อนาคตการเมืองไทยหลังการเลือกตั้ง นายเอกชัย วิเคราะห์จากรัฐธรรมนูญ ก่อนระบุว่า สภาน่าจะวุ่นวาย เพราะการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วน เป็นการปิดช่องให้พรรคหนึ่งได้เสียงเกินครึ่ง จะเกิดรัฐบาลผสม ปัญหาของรัฐบาลผสม คือ หากพรรค ก. อยากทำนโยบายสาธารณสุข พรรค ข. อยากทำนโยบายคมนาคม ที่ต้องใช้เงินมากทั้งคู่ สุดท้ายจะเชื่อใคร เพราะแต่ละฝ่ายต่างมีอำนาจต่อรองกันหมด