การเมืองเริ่มชัด หลังจากมีข่าวว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์ โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช.เริ่มสำแดงฤทธิ์เดชมากขึ้นหลัง โชว์พลังดูดขั้นเทพ เหมาทั้ง “บิ๊กแป๊ะ” นายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชล และ “น้องติ๊ก” นายอิทธิพล คุณปลื้ม อดีตนายกเมืองพัทยา เข้ามาร่วมในมวลหมู่คสช.อย่างง่ายดาย
ดีลแบบนี้ไม่ธรรมดาแน่ จะเป็นสมคิดหรือกลุ่มทหารคงไม่ต้องไปสืบสาวหาความกัน เพราะต้องไม่ลืมว่าสิ่งที่ชัดเจนคือ ความสัมพันธ์ที่แนบแน่นของภาคตะวันออก คือ กลุ่มนายทหารบูรพาพยัคฆ์ ทั้ง “บิ๊กป้อม” พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์ “บิ๊กป็อก”พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พี่รอง และ”บิ๊กตู่” พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา น้องเล็กบูรพาพยัคฆ์ ที่มีความสนิทสนม คุ้นเคยกันมานานกับกลุ่มชลบุรี สมัยที่ “กำนันเปาะ” นายสมชาย คุณปลื้ม ยังโลดแล่นอยู่ในยุทธจักรนักเลง ในฐานะ “เจ้าพ่อตะวันออก” ดังนั้นการรวมกันของกลุ่มนี้จึงไม่ยาก ในขณะเดียวกันพี่ใหญ่ของ บูรพาพยัคฆ์ เองก็เอ็นดู สนธยา มานาตั้งแต่วัยรุ่น จึงไม่น่ายากหากต้องการกำลังเสริมทางการเมือง
เพราะสนธยาเองคงต้องดีดลูกคิดรางแก้วแล้วว่าคุ้มหรือไม่ เพราะในฐานะพี่ใหญ่ในตระกูลคุณปลื้ม หลัง กำนันเป๊าะ นายสมชาย คุณปลื้ม ที่ตอนนี้วางมือทุกอย่างและรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล สนธยาไม่มีทางเลือกจำต้องรักษาฐานและบารมีคุณปลื้มต่อไป ดังนั้นการเลือกเดินหมากเกมนี้เซียนการเมืองอย่างสนธยามีหรือจะอ่านไม่ออก แต่รู้ว่าเสี่ยงก็คงต้องขอลอง เพราะหากเสี่ยงแล้วคุ้มก็โอเค ในขณะเดียวกันเชื่อว่าพรรคพลังชลก็ยังคงเป็นตัวเลือกหนึ่งในการเลือกตั้งครั้งหน้าในสนามการเมือง
ส่วนที่มีกระแสมานานแต่ยังไม่มีข้อสรุปก็คือ กลุ่ม สะสมทรัพย์ ที่นิ่งมาตลอดแม้ว่าจะมีภาพของพลเอกประยุทธ์ และ “บิ๊กแดง” พลเอกอภิรัชน์ คงสมพงษ์ ผู้ช่วยผบ.ทบ.ที่ว่ากันว่าคนนี้แหละที่ทำให้เกิดดีลนี้ การเดินทางเล่นกอล์ฟถึงถิ่นนครปฐม โดยมีบรรดาผู้นำในตระกูลสะสมทรัพย์ให้การต้องรับ เพราะที่ผ่านมากลุ่มนี้ก็ไม่ได้มีพรรคการเมืองที่ฝังรากมีการเปลี่ยนแปลงตามกระแสมาโดยตลอด จากพรรคโน้นมาพรรคนี้เรื่อยๆ ดังนั้นหากมีการดีลการเมืองกันจริงก็ไม่น่าจะมีปัญหาที่กลุ่มนี้อาจจะมีการขยับไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ทางการเมืองอีกครั้ง
นายไชยยศ สะสมทรัพย์ สมาชิกคนสำคัญของตระกูล กล่าวถึงจุดยืนทางการเมืองของตระกูลสะสมทรัพย์ว่า จุดยืนของตระกูลสะสมทรัพย์นั้น พวกเราเป็นผู้อาสามาบริหารประเทศเพื่อประชาชน ซึ่งประชาชนก็จับตาดูพวกเราอยู่ ซึ่งจะต้องถามประชาชนว่าจะให้เราไปอยู่ที่ไหน และที่ผ่านมาจากการฟังเสียงประชาชนก็มีทั้งสองทางคือให้อยู่ทั้งกับ คสช. และอยู่กับพรรคเพื่อไทย แต่สุดท้ายการเมืองก็คืออนัตตา ไม่อยู่ภายใต้การบังคับของใคร ต้องฟังเสียงประชาชน ยืนยันว่าตระกูลสะสมทรัพย์ไม่เคยมืดมนทางการเมือง เราชัดเจนตลอด
แต่กระนั้นก็ตามในส่วนของพรรคเพื่อไทยที่มีการเปิดให้มีการยืนยันสมาชิกพรรคการเมืองก็ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่ยืนยันสมาชิกพรรค ดังนั้นอะไรก็เกิดขึ้นได้ อาจจะมีกลุ่มก้อนการเมืองบางกลุ่มของเพื่อไทยหลุดไปกับกลุ่มสะสมทรัพย์เช่นกัน ก่อนหน้านี้สมเกียรติ ศรลัมภ์ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ก็เปิดตัว “พรรคประชาภิวัฒน์”เป็นทางเลือกให้กับประชาชนในการเลือกตั้งครั้งหน้า พร้อมประกาสส่งส.ส. ทั้ง 350 เขตเลือกตั้ง ถือว่าเลือดไหลจากเพื่อไทยเช่นกัน
นอกจากนี้มีกระแสข่าวมาว่า ทางคสช.ส่งคนไปทาบทามอดีตส.ส.อีกหลายพรรคการเมืองทั้ง พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา และอีกหลายกลุ่ม ก็ไม่แน่เหมือนกันว่าจะเป็นเช่นไร แต่หากคสช.เดินเกมหนักก็มีสิทธิ์ที่พรรคพลังประชารัฐแจ้งเกิดทางการเมืองได้เช่นกัน
สุดท้ายการเมืองหลังจากนี้จะเป็นเช่นไรใครจะได้เข้าป้ายเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 คงต้องร้องประโยคที่ว่า “Come on Come on Come on Come on baby ให้คุกกี้ทำนายกัน”
Ringsideการเมือง