นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ตลาดด่อมคอม กล่าวในรายการ Ringsideการเมือง หลัง แจ็ค หม่า เจ้าของแพลทฟอร์ม “อาลีบาบา” ลงนามลงทุนในประเทศไทย เป็นเม็ดเงินกว่า 1 หมื่นล้านบาทว่า แจ็ค หม่า สนใจประเทศไทย และอาเซียนมาได้สักพัก ก่อนตัดสินใจเข้ามาลงทุนจริงจังผ่านการซื้อลาซาดา ตามมาด้วยการเข้ามาตั้งฐานกระจายสินค้าตามประเทศต่างๆ นำมาซึ่งการลงทุนในไทยอย่างที่สุด เป็นวิถีทางธุรกิจ
“ความน่ากังวลมันอยู่ที่นับตั้งแต่ลาซาดา มาอยู่ในมือแจ็ค หม่า จะเห็นว่าสินค้าที่ขายกันอยู่ข้างในจากที่เคยเป็นตลาดนานาชาติ มีสินค้าท้องถิ่น ผสมกับสินค้าจากทวีปต่างๆ วันนี้ มีแต่ของจีนทั้งนั้น เช่นเดียวกัน การเข้ามาลงทุนในไทย สุดท้ายเป้าหมายคือเอาสินค้าจีนเข้ามาขาย ในแพลทฟอร์ม ที่เขาครอบครองอยู่ ทั้งลาซาดา อาลีบาบา เขาไม่ได้มาวางแผงขาย แต่เขามาขายผ่านหน้าจอมือถือเลย และเราก็ใช้มือถือ ใช้คอมพิวเตอร์ กันทุกวัน ปกติ แค่สินค้าจีนชิปปิ้งเข้ามาทางเรือ เราก็สู้เขาลำบาก เพราะของเขาถูก แรงงานเขาถูก แต่คราวนี้ เขามีสินค้ามารอขายในประเทศเราเลย ฟันธงว่าพ่อค้าแม่ค้าคนไทย ถ้าไม่ปรับตัว ต้องล้มหายตายจากแน่นอน”
เมื่อถามว่าการเข้ามาของ แจ๊ค หม่า จะช่วยเติมเต็มนโยบาย 4.0 หรือไม่ นายภาวุธ อธิบาย ว่า เขาเป็นพ่อค้า เขาไม่จำเป็นต้องมาช่วยเหลือประเทศไทย ที่ผ่านมาอีคอมเมิร์ซไทย ช่วยเหลือกันเอง เอาตัวรอดได้ เพราะเอกชนปรับตัวเก่ง อย่างไรก็ตามการเข้ามาของแจ็ค หม่า คือโจทย์ที่ยากมากสำหรับเอกชนไทย
ส่วนตัวต้องการให้รัฐเข้ามาดูแลอีคอมเมิร์ซไทยอย่างจริงจัง และมองโลกตามความเป็นจริงมากกว่าการหวังให้ทุนใหญ่มาช่วย เพราะพ่อค้าย่อมมองหากำไร แต่รัฐบาลต้องหาทางช่วยประชาชน แน่นอนว่าก่อนจะมีวันนี้ รัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ในการยกระดับตลาดออนไลน์ แต่มันไม่ตอบโจทย์คนที่เขาทำธุรกิจนั้นจริงๆ เนื่องด้วยเพราะข้าราชการ ไม่ใช่คนที่ลงมาหากินกับตลาดออนไลน์ ทางที่ดีควรเปิดช่องทางให้นักธุรกิจออนไลน์ของไทย เข้าไปมีส่วนร่วมกับรัฐบาลในการพัฒนานโยบายเกี่ยวกับเทคโนโลยีให้มากขึ้น
“ส่วนตัวผมมีโปรเจ่ก ในการยกระดับอีคอมเมิร์ซไท มากมาย ผมเสนอไปหลายหน่วยงาน แต่ยังไม่เห็นมีใครนำไปใช้เลย ก่อนการเลือกตั้ง ถ้าพรรคการเมืองไหนสนใจ ภูมิใจไทย เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ มาคุยกับผมได้เลย ผมอยากเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาชาติ”