นายสติธร ธนานิธิโชติ นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ สถาบันพระปกเกล้า ทำนายจำนวน ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่า กลุ่มคะแนนของนายธนาธร ไม่ใช่กลุ่มคนที่เลือกพรรคการเมืองเดิม ได้แก่ 1 กลุ่มนิยมพรรคทางเลือก 2 กลุ่มที่กาโหวตโน 3. กลุ่มผู้ลงคะแนนหน้าใหม่
1.คนที่นิยมกาพรรคทางเลือก เช่น คนที่เลือกพรรคชูวิทย์ ซึ่งมีประมาณ 900,000 คะแนน แต่ไม่ได้แปลว่าพรรคธนาธรจะดึงคะแนนตรงนี้มาได้ทั้งหมด เพราะคะแนนก้อนนี้เป็นผลของระบบบัตรสองใบ คะแนนที่ธนาธรมีโอกาสได้จริงๆ จากระบบบัตรเดียว คือ คะแนนจากคนที่เคยกาให้นายชูวิทย์ในระบบปาร์ตี้ลิสต์ และในการเลือกระบบเขตเดิมกาให้พรรคอื่น ที่ไม่ใช่พรรคใหญ่ ซึ่งประเมินว่ามีไม่น่าเกิน 10% ของคะแนนที่เลือกชูวิทย์ทั้งหมด แปลว่า พรรคนายธนาธร มีโอกาสจากคะแนนตรงนี้อยู่ประมาณไม่เกิน 90,000 คะแนน
2.คนที่เคยกา vote no หรือ จงใจทำบัตรเสีย ในระบบแบ่งเขตเดิม เพราะไม่ชอบผู้สมัครของพรรคการเมืองไหนเลย ตัวเลขกลมๆ มีประมาณ 1.5 ล้าน ประเมินว่า พรรคนายธนาธร มีโอกาสประมาณ 50% ของก้อนนี้ เพราะต้องไปแชร์คะแนนกับพรรคหน้าใหม่อื่น สรุปว่า คุณธนาธร มีโอกาสจากตรงนี้ ประมาณ 750,000 คะแนน
3.New voters ซึ่งนับจากปี 2554 ถึงปีหน้า 2562 รวม 7 ปี ปีนึงมีคนหน้าใหม่มีสิทธิเลือกตั้งประมาณ 1 ล้านคนตามสถิติการเกิด รวมประมาณ 7 ล้าน จากสถิติเดิม คนกลุ่มนี้ ตามธรรมชาติ ออกมาใช้สิทธิน้อย สมมติว่าการเข้ามาของพรรคนายธนาธรช่วยกระตุ้รให้คนกลุ่มนี้ออกมาใช้สิทธิได้ประมาณ 60% ตัวเลขจริงๆ จะเหลือ 4.2 ล้าน ให้เก็บเกี่ยว ประเมินว่า ผู้มีสิทธิกลุ่มนี้เต็มที่ พรรคธนาธรน่าจะเก็บคะแนนได้ไม่เกิน 10% หรือ 400,000 คะแนน เพราะมันต้องสู้กับพรรคใหญ่และพรรคกลาง
คือเกมการชิงคะแนนจากผู้เลือกตั้งหน้าใหม่ เป็นเกมยากมาก เพราะคนหน้าใหม่ ที่ชอบของเก่าก็มีอยู่ไม่น้อย
“สรุปว่า โอกาสของพรรคธนาธร จะเท่ากับการนำคะแนนเสียง 90,000 + 750,000 + 420,00 = 1,200,000 คะแนน คำนวณแล้วจะได้ประมาณ 10 ที่นั่ง บนเงื่อนไขอีก 2 ข้อ
1.พรรคสามารถหาคนลงสมัครได้ครบ 350 เขต
2.ต้องสามารถเลี้ยงกระแสจนถึงวันเลือกตั้งซึ่งอีกเป็นปี และสามารถสร้างความแตกต่างจากพรรคอื่นๆ ได้จริง ในช่วงที่ทุกพรรคเปิดหน้าแข่งขันกัน”