นายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ ปธน.เกาหลีเหนือ และ ปธน.เกาหลีใต้ เปิดการเจรจาในรอบแรกเพื่อหาทางยุติความขัดแย้ง ว่า เป็นภาพสะท้อนความตั้งใจของทั้ง 2 ฝ่ายในการยุติความบาดหมางที่มีมานานกว่าครึ่งศตวรรษ ซึ่งแบ่งเกาหลีออกเป็น 2 ชาติ ครอบครัวชาวเกาหลีนับล้านต้องถูกพรากจากความขัดแย้งโดยสิ่งที่สำคัญคือความมุ่งมั่นที่จะเปิดการเจรจา แทนการใช้กำลังเข้าห้ำหั่นกัน ส่วนหนึ่งมาจากการที่ ทั้ง 2 ฝ่ายต่างสู้รบกันและสูญเสียกันมามาก จนน่าจะคิดได้ว่าถึงเวลาต้องหยุดการใช้ความรุนแรงเป็นทางออก เพราะรังแต่จะก่อให้เกิดความสูญเสียมากขึ้น
นายศุภชัยกล่าวต่อว่า สำหรับประเทศไทย ชัดเจนว่าคู่ขัดแย้งยังมีความพยายามใช้กำลังเอาชนะคะคานกันเสมอมา ไม่คำนึงถึงผลที่ได้รับ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจตกต่ำ การเมืองไร้เสถียรภาพ กระทบกับปากท้องพี่น้องประชาชน ไปจนถึงภาพการเสียชีวิตของมวลชนแนวร่วมของแต่ละฝ่าย เพราะสิ่งที่อยู่ในใจมีแต่จ้องหาทางชำระแค้น จ้องขยี้ฝ่ายตรงข้าม เพระกลัวอีกฝ่ายมีอำนาจแล้วจะกลับมาเล่นงานกลับ
อย่างไรก็ตาม ถ้าเกาหลีเหนือเกาหลีใต้ที่เปิดสงครามมีคนตายเรือนหมื่น สามารถข้ามความบาดหมาง ก้าวข้ามความเจ็บปวด แล้วหันหน้าคุยกันได้ คู่ขัดแย้งในไทยก็ควรดูเป็นแบบอย่าง เพราะถือว่าการเจรจาไม่มีคำว่าสายเกินไป และเริ่มหาทางยุติความขัดแย้ง ให้ชาติเดินหน้าในที่สุด
และหวังว่า คสช.ที่ดูเหมือนจะลืมเลือนไปว่าการสร้างความปรองดองคือสาเหตุหลักที่ คสช.ต้องเข้ามา ควรที่จะหวนกลับมาทำสิ่งสำคัญนี้ให้มีความคืบหน้า เพราะเรื่องนี้เงียบหายไป ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดาย