ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า
“การเลือกตั้งเป็นกระบวนการประชาธิปไตย ต้องคิดดูว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะทำอย่างไรจึงเป็นประชาธิปไตยที่มีธรรมาภิบาล ขณะเดียวกันสังคมไทยต้องเปลี่ยนแปลงวิธีคิดวิธีการเลือกตั้ง หลักการที่จะเลือกคนไปเป็นส.ส.จะต้องเปลี่ยนวิธีการหมด แล้วผมจะไปบังคับใครได้ มันขึ้นอยู่กับประชาชนทั้งหมด ทั้งระดับบน กลาง ผู้มีรายได้น้อย
ทั้งหมดต้องช่วยกันออกมาเลือกตั้ง เพื่อให้ได้นักการเมืองใหม่ขึ้นมาให้ได้ หรือนักการเมืองเดิมๆ ที่ดีๆ ให้ได้ ผมยังไม่ไปก้าวล่วงพวกนี้เลย บ้านเมืองกำลังไปได้ด้วยดี ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เราก็พูดและประกาศไปแล้ว เราจะเลือกตั้งในต้นปี 62 ก็ไม่เห็นมีประเทศใดทักท้วงเขาก็พอใจขอให้เราเดินไปตามนั้น ไม่ต้องมาเป็นห่วงว่ารัฐบาลนี้จะเลื่อน ผมไม่เคยคิดจะเลื่อนเลย แต่ที่มันปรับมาก็เป็นเรื่องของกฎหมาย แต่ก็ยังมาหาว่าผมทำให้กฎหมายยืดเยื้อ ผมจะไปทำอะไรขนาดนั้น”
นายเอกชัย ไชยนุวัติ นักวิชาการด้านกฎหมาย ให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าวว่า การยึดอำนาจไปจากเจ้าของอำนาจ คือ ปวงชนชาวไทย เป็นความปกติที่ไม่ปกติของสังคมไทย ทำให้ การพัฒนาทางการเมืองของไทยถดถอย ตั้งแต่ พ.ศ. 2475 จนปัจจุบัน ถ้าไปย้อนดูจะเห็นว่า สังคมไทยอยู่ภายใต้ระบอบทหารมากกว่า ประชาธิปไตย
ดังนั้น ยิ่งคืนอำนาจให้ประชาชนเร็วเท่าใด ยิ่งเป็นผลดีต่อประชาธิปไตย และฟื้นความชอบธรรมของ คสช. ด้วยซ้ำ
ตอบในมุมมองกฎหมาย ตอนนี้ ความไม่แน่นอนคือสิ่งที่แน่นอน สิ่งที่เรียกว่า กฎหมายต้องมีความมั่นคงแน่นอนแห่งนิติฐานะ หมายความว่า ประชาชนต้องรู้ได้ว่า อะไรคือ กฎหมาย และยังคงใช้บังคับให้มีความแน่นอนในระยะเวลาหนึ่ง
ปัจจุบันนี้ ไม่มีความแน่นอนใดๆทั้งสิ้นในส่วนของกฎหมาย คือ จะยืดจะหดอย่างไรก็ไม่มีใครทราบได้ ผมจึงเห็นว่า การอ้างว่า การเลือกตั้งจะมีหรือไม่เมื่อไหร่ เป็นผลของกฎหมายนั้น เป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น
นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ในการจะเลื่อนหรือไม่เลื่อนการเลือกตั้งนั้น คงต้องดูว่าศาลรัฐธรรมนูญจะตีความออกมาอย่างไร ว่าสิ่งที่มีการยื่นตีความไปนั้นขัดหรือไม่ขัดต่อกฏหมายรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถ้าขัดกฏหมายขัดอย่างไร ส่งผลต่อผลการเลือกตั้งหรือไม่ จะต้องแก้อย่างไรทั้งฉบับหรือบางมาตรา ซึ่งต้องรอดูผลการตีความของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะตีความออกมาอย่างไร เพราะการตีความของศาลรัฐธรรมนูญมีเงื่อนของเวลาเข้ามาเป็นตัวกำหนดถึงอนาคตการเมืองไทย ในส่วนตัวมองว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหากจะต้องเลื่อนออกไปก็ไม่น่าจะนานนัก แต่ความรู้สึกของประชาชนจะเป็นเช่นไร ประเด็นนี้น่าจะต้องมาดูเมื่อถึงวันนั้น
ในส่วนของพรรคคงไม่มีปัญหาอะๆไร เพราะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เคยพูดกับสมาชิกพรรคแล้วว่า ให้อดทนรอเวลาเพราะเราเป็นนักการเมืองต้องทำตามกฏหมาย ดังนั้นหากกฏหมายบอกเลื่อน ก็ต้องเลื่อน แต่หากไม่เลื่อนก็เป็นเรื่องที่ดีเพราะเราต้องพร้อมในการทำงานการเมือง พร้อมลงสนามเลือกตั้งไม่ว่าจะเลือกตั้นต้นปีหรือกลางปี 62 พรรคก็พร้อมในการสู้สึกเลือกตั้งเป็นทางเลือกให้กับประชาชนในการเป็นพรรคการเมืองที่เป็นทางเลือกและพร้อมในการทำงานเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน
มุมมอง 2 คนไทย ตอบไปในทิศทางเดียวกัน
“อยากเลือกตั้ง”
Ringsideการเมือง