เป็นไปตามที่คาดการณ์กันไว้ และตามยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ที่มีแนวโน้มว่าคนในวงวานว่านเครือ กำลังมีการจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ หมายเป็นรัฐบาลหลังเลือกตั้ง ตั้งเป้าดันพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง
ดังนั้น การเดินหน้าดูดอดีต ส.ส.จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำให้ได้ตามเป้าหมาย
ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่า มีการประชุมหน่วยงานด้านการข่าวของ คสช. เช็คคะแนน ส.ส.ในพื้นที่รวมทั้งตัวเลข ส.ส.ทั้งหมด ว่าพรรคไหนจะได้เท่าไหร่ แต่ผลที่ออกมาไม่เป็นที่พอใหญ่ของผู้ใหญ่ใน คสช.
เพราะตัวเลขพรรคเพื่อไทยยังสูง ดังนั้นจึงมีการปรับแผน และปรับยุทธศาสตร์การเมืองของ คสช. ใหม่ จากที่มุ่งหาแนวร่วม สร้างพันธมิตร ที่ต้องลุ้นหนัก ว่าอาจพลิ้วหนี หลังประกาศคะแนน
เปลี่ยนเป็นมาตัดกำลังคู่แข่งโดยตรงอย่าง “พรรคเพื่อไทย” สบายใจกว่า
ล๊อกเป้าที่จังหวัดนครราชสีมา ที่มี ส.ส.มากที่สุดจำนวน 15 ที่นั่ง 8 ที่นั่งอยู่ในกำมือค่ายเพื่อไทย
ข่าวว่าพุ่งไปที่กลุ่มนายวิรัตน์ รัตนเศรษฐ นักการเมืองรุ่นใหญ่ มี ส.ส.ในมือประมาณ 5-6 คน ทั้ง ส.ส.เขตและระบบปาร์ตี้ลิสต์ ที่สำคัญมีคดีคอรัปชั่นสร้างสนามฟุตซอลให้กังวลใจ ว่ากันว่า นี่เป็นประเด็นสำคัญในการต่อรอง
ร้อนถึงนายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีต รมช.คมนาคมและ แกนนำอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยภาคอีสาน ต้องออกมาย้ำความเป็นปึกแผ่นภายในพรรค
อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่าการลงพื้นที่ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะ มีการเลือกยุทธศาสตร์ในจังหวัดที่น่าจะมีการเจรจากันง่าย เพราะดูจากการลงพื้นที่หลายจังหวัดที่ผ่านมามีการนัดหารือกับส.ส.ในพื้นที่แทบทุกจังหวัด ที่ผ่านมา มีการหารือกับบ้านใหญ่ในพื้นที่ ทั้งชลบุรี สุพรรณบุรี สุโขทัย ยกเว้น จังหวัดนครราชสีมา กับบุรีรัมย์ ที่ไม่มีการปิดห้องคุยกับ อดีตส.ส.หรือผู้นำท้องถิ่น ด้วยหวังต่อรองเป็นพันธมิตรมากกว่า การเร่งควบรวมกลุ่ม
ล่าสุด นักข่าวหัวหดทุกสำนัก เห็นตรงกันว่า การลงพื้นที่่จังหวัดสระแก้ว ของพลเอกประยุทธ์และคณะ ถิ่นของนายเสนาะ เทียนทอง หรือ ป๋าเหนาะ บ้านใหญ่ในจังหวัด น่าจับตามอง
เพราะส.ส.ในพื้นที่ของจังหวัดนี้เป็นของเพื่อไทยทั้งหมด และป๋าเหนาะเองเป็นผู้มีบารมีทางการเมืองระดับชาติ ที่ผ่านมาปั้นนายกรัฐมนตรีมาแล้วหลายคน ทั้งพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ นายบรรหาร ศิลปอาชา หรือแม้แต่นายทักษิณ ชินวัตร ก็ผ่านมือป๋าเหนาะมาแล้ว
ดังนั้นการเดินทางไปสระแก้วครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีมีนัยยะทางการเมืองแน่นอน
ปฏิเสธไม่ได้ว่า คสช. เปิดเกมรุก ดูดไม่แคร์สื่อ พรรคเพื่อไทยย่อมนั่งไม่ติด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปลายเดือนพฤษภาคม ผู้บริหารพรรคเพื่อไทยจะคุยเรื่องนี้กันอย่างจริงจังก่อนจัดแถวสู้ศึกเลือกตั้ง พร้อมสร้างปราการต้านทานพลังดูด ที่กำลังรุกคืบ ชนิดไม่มีหยุดพัก
Ringsideการเมือง