หน้าแรก Article กลเกม “กึ๋น” เหนือชั้น พะยี่ห้อคนชื่อ “เนวิน”

กลเกม “กึ๋น” เหนือชั้น พะยี่ห้อคนชื่อ “เนวิน”

0
กลเกม “กึ๋น” เหนือชั้น  พะยี่ห้อคนชื่อ “เนวิน”
Sharing

ไม่ต้องอ้อมค้อม เพราะชัดเจนเหลือเกินว่า “บิ๊กตู่” พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะ กำลังเดิน “เครื่องดูด” เต็มพิกัดแรงม้า ลงทุกพื้นที่ หวังสอยนักการเมืองมาเข้าพวก เปิดเกมเร็วเช็คชื่อพันธมิตร มองตารู้ใจ เราไม่ทิ้งกัน ในสถานการณ์ฝุ่นตลบเอาแน่เอานอนไม่ได้

ก็ให้สัญญาปากเปล่ากันไปพลางก่อน

เท่านี้ คสช. ก็ชื่นใจ

แน่นอนว่า อ่านเกมขาดสำหรับนาย “เนวิน ชิดชอบ” กับการเป็น “พ่องาน” จัดเต็มรับ “บิ๊กตู่” เปิดช้างอารีนา ให้ประชาชน 3 หมื่นคน ได้เห็นตัวจริงเสียงจริงของนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน

เพราะงานนี้ มัน “You get what you give” จัดอีเว้นท์ระดับชาติ เอาใจ ครม. ไม่ต้องพูดปราศรัยแบบเขินเขินท่ามกลางประชาชนหะร๋อมหะแร๋ม

“บิ๊กตู่” ดูมีบารมีขึ้นมาทันที

เมื่อให้ไปแล้ว ก็ต้องได้รับกลับคืน

จึงไม่แปลกใจที่ก่อน “บิ๊กตู่” เหยียบสนาม “บิ๊กเน” ได้จัดให้ประชาชน โชว์ความเป็นเอกภาพของชาวบุรีรัมย์พร้อมของบกันโต้งๆ

“ขอให้อดทนต่อแสงแดดและความร้อน และเมื่อเวลาที่ นายกฯลุงตู่ที่เดินทางมาบุรีรัมย์ และขอให้ส่งเสียงดังๆ เพื่อให้นายกฯลุงตู่อนุมัติงบประมาณลงพื้นที่บุรีรัมย์ให้ได้หมื่นล้านบาท ขอให้ร่วมกันให้กำลังใจ”

เป็นสไตล์การทำงานตามฉบับของผู้ชายชื่อ “เนวิน” ที่พร้อมจะ “ดูด” ผลประโยชน์สู่จังหวัดบุรีรัมย์ ตามแบบฉบับเจ้าพ่อการเมือง ที่ผันตัวเองเป็น “ฝ่ายอุปถัมป์” ท้องถิ่น เชื่อมต่อระหว่างรัฐ กับชาวบ้าน ซึ่งต้องยอมรับว่าบทบาทนี้ ไม่มีใครเกิน “บิ๊กเน”

สะท้อนผ่านการเติบโตของจังหวัด ที่ว่ากันว่า ในรอบ 10 ปีมานี้ จังหวัดบุรีรัมย์ เติบโตกว่าเดิมถึง 700 เท่า เพราะหาใช่เพียงสนามบอล และทีมฟุตบอลระดับทวีป แต่ยังรวมถึงสนามแข่งรถ และโรงแรมระดับโลก รวมไปถึงแหล่งช็อปปิ้งระดับประเทศ ที่ล้วนเกิดขึ้นหลังจาก “นายเนวิน” เอาจริงในการเปลี่ยนเมืองผ่าน ให้เป็นเป้าหมาย

รายงานของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระบุว่า ในปี 2553 บุรีรัมย์มีผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด มูลค่า 61,912 ล้านบาท และมีรายได้ต่อหัวประชากร 48,587 บาท ขณะที่ปี 2554 ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 67,353 ล้านบาท และรายได้ต่อหัวประชากร 52,982 บาท

นี่คือความสำเร็จของจังหวัดบุรีรัมย์ในฝ่ามือของ “เนวิน” ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเกิดจากความอัจฉริยะในการผันงบลงพื้นที่

ทั้งจากงบรัฐบาล และงบเอกชน เพราะ “บิ๊กเน” ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อคอนเน็กชั่นของประเทศไทย

ในทางการเมือง “เนวิน” ได้รับแรงสนับสนุนจากชาวบุรีรัมย์ ชนิดยากหาใครเทียบทาน การได้ “เนวิน” ไปไว้ในมือ มีค่าถึงการได้จังหวัดไปไว้ในครอบครอง

ทว่าด้วยความเจนจัดทางการเมืองของ “บิ๊กเน” ก็ใช่ว่าใครจะ “ดูด” ไปได้ง่ายๆ

แน่นอนการจัดงานสุดอลังการรับคณะรัฐมนตรีครั้งล่าสุด ไม่ได้การันตีว่า “บิ๊กเน” ได้ร่วมหัวจมท้ายกับ คสช.

เพราะอย่าลืมว่า “เนวิน” หาใช่เพิ่งจัดการต้อนรับ “บิ๊กตู่” เป็นคนแรก แต่ทว่าเคยพา “ดร.ทักษิณ” ขี่ช้างสัญจรเมืองสุรินทร์ หลังจากนั้น ได้พานายอภิสิทธิ์ทัวร์เมืองปราสาทเก่า สยบคำ “มาร์คเยือนอีสานไม่ได้” เสียอยู่หมัด

แต่สุดท้าย “บิ๊กเน” ก็หาได้ลงหลักปักฐานกับใคร เพราะคติประจำใจ คือ

“บุรีรัมย์ ต้องมาก่อน” ด้วยเพราะเป็นถิ่นฐานบ้านเกิด และจุดกำเนิดของคนชื่อ “เนวิน ชิดชอบ”

จึงเป็นไปไม่ได้เลย ที่ “บิ๊กเน” จะตัดสินใจผลีผลามร่วมกับทหาร ทั้งที่ยังไม่ชัดเจนในกระแสสีเขียว ว่าร้อนแรง หรือแค่ลวงตา

หากอ่านอัตลักษณ์ทางความคิดของผู้ชายชื่อ “เนวิน” แล้ว การจัดงานต้อนรับครั้งล่าสุด เป็นการใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ ที่ “บิ๊กตู่” ต้องการภาพลักษณ์ และ “บุรีรัมย์” ต้องการงบประมาณ

เมื่อสมประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย เท่ากับ “เนวิน” เสร็จภารกิจแล้ว

ส่วนเรื่องการเมือง ในสถานการณ์ฝุ่นตลบ จับทิศทางสังคมลำบาก

ภูมิใจไทย และ “เนวิน” ยังตั้งมั่นตามสูตรการเมืองรุ่นเก๋า

“ยืนตรงกลาง ไม่สร้างศัตรู”

ขอบคุณภาพ : ไทยรัฐ

Ringsideการเมือง


Sharing

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่