นายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมการทำงานของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช. ที่จะครบ 4 ปี ว่า สถานการณ์ในปัจจุบัน เปลี่ยนไปจากอดีตที่ คสช.เข้ามาเพื่อยุติความขัดแย้ง ซึ่งวันนี้บ้านเมืองสงบสุขแล้ว ต้องขอปรบมือให้ คสช. กับความตั้งใจที่ดี
อย่างไรก็ตาม หลายคนเชื่อว่า คสช.กำลังเกิดความระแวงว่าความวุ่นวายจะกลับมาอีก จากเดิมที่ คสช.จะอยู่เบื้องหลัง วางกฎเกณฑ์กติกาให้เดินต่อไปได้ ก็กลัวใช้อำนาจไม่เต็มที่ กลัวจะเสียของ จึงมีการวิเคราะห์ว่า คสช. ต้องมาอยู่เบื้องหน้า ดูได้จากท่าทีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. หรือการออกมาสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ตลอดจนกระแสข่าวการตั้งพรรคการเมืองเพื่อสนับสนุน คสช. และพล.อ.ประยุทธ์ สิ่งเหล่านี้ทำให้สังคมเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเล่นการเมืองแน่นอน
ดังนั้นจึงมีคำถามว่า หากพลเอกประยุทธ์กลับเข้ามาหลังเลือกตั้ง แล้วจะทำงานอย่างไร เพราะรัฐธรรมนูญที่ออกกฎหมายทำให้พรรคการเมือง นักการเมืองทำงานลำบาก โดนจับตรึงไว้ แล้วกติกาที่กำหนดไว้บล็อคคนอื่น แล้วพรรคตัวเองก็ต้องมาใช้กติกานี้ด้วย
นายศุภชัย กล่าวด้วยว่า ในส่วนประเด็นนายกรัฐมนตรีคนในหรือคนนอกนั้น ขอย้ำจุดยืนของพรรคภูมิใจไทยว่าเราชูนายกรัฐมนตรีคนในเป็นสำคัญ หรือ ชู นายอนุทิน ชาญวีระกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นไปตามกติกา ทั้งนี้ พรรคเรายึดมั่นตามกติกาเป็นสำคัญ กติกาว่าอย่างไร ก็ต้องไปแบบนั้น ให้บ้านเมืองมันเดินต่อไปได้ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าพรรคภูมิใจไทยตกลงควบรวมกับฝ่ายนู้นฝ่ายนี้ ขอยืนยันว่าการตัดสินใจที่สำคัญ จะเกิดขึ้นหลังเลือกตั้ง ที่เราได้เห็นเสียงของประชาชนแล้ว