จนถึงวันนี้การปฏิรูปประเทศที่โหมกันมานานกว่า 4 ปี ตั้งแต่สมัยที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.เปิดประเด็นขึ้นมาจนถึงวันนี้ดูเหมือนว่า ไม่คืบหน้าไปทางไหน ไม่มีอะไรเห็นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ดังนั้นบรรดานักวิชาการ นักการเมือง และคนใน คสช.เองก็ออกมายอมรับว่าปฏิรูปประเทศไปไม่ถึงไหน
นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย ชี้แจงแผนการปฏิรูป ว่า รู้สึกเหนื่อย เพราะมองไม่เห็นว่าจะไปจบลงอย่างไร ซึ่งก่อนหน้านี้มีการตั้งองค์การอย่างสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ก่อนยุบตั้งสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) แล้วยุบตั้งคณะกรรมการปฏิรูปด้านต่างๆ 11 คณะ ซึ่งทุกคณะมีแต่แผน แล้วให้ส่วนราชการเป็นผู้ปฏิบัติ แต่คิดว่าการใช้ส่วนราชการเป็นฝ่ายปฏิบัตินั้น ไม่ใช่เรื่อง่ายที่จะสำเร็จ เพราะเหมือนกับให้ผู้ที่ถูกปฏิรูปมาทำเรื่องปฏิรูปเสียเอง นอกจากนี้ระบบราชการยังคิดแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป ต่างจากกรรมการปฏิรูปที่ต้องการลงมือทำในทันที ดังนั้น จึงไม่แน่ใจว่าการปฏิรูปจะสำเร็จหรือไม่ เพราะเหมือนกับให้ผู้รับเหมามาทำหน้าที่ตรวจงานตัวเอง ดังนั้นจึงอยากมีข้อเสนอแนะให้กรรมการปฏิรูป มีอำนาจในการเสนอกฎหมายด้วย ไม่ใช่ให้ส่วนราชการเป็นผู้เสนอกฎหมายอย่างเช่นเวลา แม้จะใช้เวลาถึง 4 ปีแล้ว แต่การปฏิรูปยังอยู่ในขั้นตอนการวางแผน ยังไม่มีอะไรคืบหน้า และตอบไม่ถูกว่าการปฏิรูปจะแล้วเสร็จเมื่อใด เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) บัญญัติให้การปฏิรูปอยู่ในบทถาวร ซึ่งหมายความว่าจะต้องปฏิรูปต่อไป ตราบเท่าที่รัฐธรรมนูญยังคงอยู่ แต่ในความเห็นจริงแล้วเราจะปฏิรูปไปตลอดชาติไม่ได้
ด้าน นายบรรยง พงษ์พานิช อดีตคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก โดยแชร์ข่าวที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โต้นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ปธ.ปฏิรูปกฎหมาย เรื่องการปฏิรูปประเทศตลอด4ปีที่ว่าไม่คืบนั้น มีผลงานหลายด้าน
นายบรรยงระบุว่า “ผมว่า…..ก่อนอื่นเลยคงต้องทำให้ท่านเข้าใจตรงก่อนว่า “ปฏิรูป”(Reform) แปลว่าอะไร ให้เข้าใจตรงกันก่อนว่า ในแต่ละเรื่องนั้น จะปรับจะเปลี่ยน จากformไหน ไปสู่formไหน เพราะอะไร เพื่ออะไร และทำอย่างไร นี่เอาแต่แหกปาก “ปฏิรูป ปฏิรูป ปฏิรูป” มันเลยพายเรือในอ่าง นั่งชิงช้าสวรรค์ เล่นมอไซด์ไต่ถัง วนไปวนมาอยู่ที่เดิมเกือบทุกเรื่อง” โดยก่อนหน้านี้นายบรรยงโพสต์ถึงเรื่องเดียวกันนี้ว่า “เอานักกฎหมาย ทหาร กับข้าราชการ นำการปฏิรูปก็จะเป็นอย่างนี้แหละครับ…เหมือนพายเรือวนในอ่าง เหมือนเล่นชิงช้าสวรรค์ เหมือนมอเตอร์ไซด์ไต่ถัง …ทำไปทำมา ทุกอย่างอยู่ที่เดิม”
นายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงผลการปฏิรูปประเทศ 4 ปี ว่า จนถึงปัจจุบันการปฏิรูปยังไม่เห็นผลงานชัดเจน เป็นแค่โครงร่าง หรือ โครงสร้างปัญหาเท่านั้น และจากการเปิดเผยของคณะทำงานจะพบว่า4 ปีที่ผ่านมาของการปฏิรูปจะได้เพียงแต่ว่าคณะทำงานพบปัญหาประเทศมีอะไรบ้างต้องทำอะไรบ้าง เพราะปัญหาประเทศมีความหลากหลาย ทั้งสังคม เศรษฐกิจ การเมือง
ดังนั้นการปฏิรูปจึงเป็นการตั้งโครงร่างเท่านั้นยังไม่เริ่มมากนักจากภาพที่เห็น นอกจากนี้การปฏิรูประบบราชการแต่เอาข้าราชการมาทำเรื่องปฏิรูปมันก็ไม่สำเร็จเช่นเดียวกับการปฏิรูปตำรวจเอาตำรวจมาปฏิรูปตำรวจมาปกิรูปหน่วยงานตัวเอง ไม่มีใครเขาทำกันดังนั้นการปฏิรูปสรุป 4 ปีได้แค่โครงร่างเท่านั้น
อย่างไรก็ตามที่น่าสนใจคือเขียนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มากกว่า ว่า ในอนาคตจะกลายมาเป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาประเทศ เพราะไม่มีประเทศไหนเขาเขียนยุทธศาสตร์ชาติกำกับไว้ในรัฐธรรมนูญ
การกำหนดวิสัยทัศน์ประเทศ แล้วมาเขียนยุทธศาสตร์ กำหนดกรอบปฏิบัติ 20 ปี แล้วมีกฏหมายบังคับ มันจะเป็นอุปสรรคในการพัฒนาประเทศ เพราะโลกมันเปลี่ยนเร็ว เราก้าวตามไม่ทันเพราะจะติดยุทธศาสตร์ชาติ20 ปีที่คสช.กำหนดไว้
สรุปสุดท้ายการออกมายอมรับของคนใน คสช.เอง คือ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีข้อสั่งการในที่ประชุม ครม.ถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์การปฏิรูปไม่คืบหน้าว่า ขณะนี้แผนปฏิรูปประเทศทั้ง 11 ด้าน มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ตนได้อธิบายมาเป็นระยะแล้วว่าแผนการปฏิรูปไม่จำเป็นจะต้องนำมาปฏิบัติทุกเรื่องแต่หน่วยงานราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม จะต้องตรวจสอบงานของตัวเองในทั้ง 11 ด้าน ว่าจะต้องทำในเรื่องใดบ้าง เรื่องใดสามารถทำได้ทันที หรือทำได้ในระยะเวลากี่เดือนข้างหน้า ต้องกำหนดให้ชัดเจน ก่อนเสนอให้ ครม.ทราบ
แต่ต้องยอมรับว่าบางเรื่องสามารถนำไปปฏิบัติได้ บางเรื่องมีปัญหาในการปฏิบัติ และบางเรื่องมีปัญหาแต่ต้องปฏิบัติ แต่การปฏิบัตินั้นจะต้องคำนึงถึงความเห็นต่างในเรื่องนั้นๆ ของแต่ละกลุ่ม เพราะหากยึดแต่แผนโดยไม่สนใจอารมณ์ของคนเห็นต่าง แผนนั้นก็จะเกิดความขัดแย้งไม่สามารถปฏิบัติได้
นอกจากนี้ นายกฯยังได้ขอให้ตระหนักถึงสิ่งที่รัฐบาลขณะนี้ทำ ว่ามีหลายเรื่องที่ปฏิรูปไปแล้ว และหลายเรื่องที่กำลังปฏิรูปอยู่ ก็กำลังวางแผนเพื่อดำเนินการในการปฏิบัติวันข้างหน้า
ล่าสุด เพื่อรับลูกกับ “นายพลไก่อู” นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกลับออกมาระบุว่า จากนี้ 8 เดือนจะเห็นผลงาน
ต้องรอดูว่าอีก 240 วันนับจากนี้ โฉมหน้าของประเทศไทย จะเป็นอย่างไรบ้าง รัฐนาวาไทย จะไปข้างหน้า หรือวนกลับมา “ที่เดิม”
Ringsideการเมือง