นายทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวในประเด็นการเมืองว่า การเลือกตั้งต้องเกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2562 เพราะไม่น่าจะมีเหตุผลให้เลื่อนไปอีกแล้ว ส่วนหลังเลือกตั้ง จะได้นายกฯคนใน เพราะ 4 ปีที่ผ่านมา วัฒนธรรมทางการเมืองไทยเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
“นายกฯคนใน มีโอกาสเกิดขึ้นมากกว่านายกฯคนนอก จากที่จดทะเบียนพรรคการเมืองกันหลายพรรค แต่เชื่อว่าจะมีแต่พรรคหน้าเดิมชนะการเลือกตั้ง เพราะทำงานกันมานาน ประชาชนรู้จัก ยิ่ง คสช. ยังไม่ปลดล็อก พรรคใหม่ ทำงานยาก
เมื่อได้ ส.ส.กันมาแล้ว กลุ่มพรรคเดิมจะเปิดทางให้พรรคเบอร์ 1 ตั้งรัฐบาล เพราะมันเป็นวัฒนธรรมทางการเมือง ที่เป็นความชอบธรรมของพรรคซึ่งได้ใจประชาชนมากที่สุดในการเลือกเฟ้นคนมาเป็นนายกฯรัฐมนตรี ถ้าเขาเสนอใคร ก็ต้องเป็นไปตามนั้น ถ้าเขาขอให้เข้ามาช่วยบริหารประเทศ ก็ต้องเข้าไปร่วม หากตีรวน ก็เหมือนกับปฏิเสธความต้องการของประชาชน
การเมืองต่อไป น่าจะเป็นแบบนี้ และประเทศไทยจะได้นายกฯคนใน
สำหรับพรรคภูมิใจไทย ที่มีข่าวประกาศว่าหนุนกองทัพ แต่ความจริง เราไม่เคยพูดทำนองนั้น สังคมเข้าใจเสียใหม่ พรรคเราเป็นพรรคขนาดกลาง เวลาเจอพี่น้องประชาชน เรามักจะพูดเรื่องปัญหาปากท้อง และการแก้ไขมากกว่า”
นายทรงศักดิ์ กล่าวถึงการปลดล็อกพรรคการเมืองว่า อยากให้รีบปลดล็อกให้ไวที่สุด เพราะพรรคการเมืองจะได้นำเสนอนโยบายที่ชัดเจน ให้ประชาชนเลือกจากข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง มากกว่ากระแส ส่วนที่หลายฝ่ายออกมาอธิบายว่า ถ้าปลดล็อกพรรคการเมือง แล้วจะวุ่นวาย ตนเชื่อว่า พรรคการเมืองแค่คิดเห็นไม่ตรงกัน แต่จะไม่นำพาไปสู่ความวุ่นวายแน่นอน เพราะคนทั้งประเทศต่างเข็ดขยาดกับความขัดแย้งตลอดหลายปี รวมไปถึงได้เรียนรู้กับผลลัพท์ที่เกิด ทั้งการบาดเจ็บล้มตายของประชาชน ความเสียหายทางการเมืองและเศรษฐกิจ น่าจะไม่มีใครพากลับเข้าสู่วังวนเดิมอีก