นายทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวผ่าน “มติชน” ถึงการร่วมหารือกับรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เพื่อเตรียมสู่การเลือกตั้งว่า การประชุมหารือในเรื่องการเลือกตั้ง เป็นเรื่องที่ประชาชนสนใจ ถ้าทำให้คนรู้ได้ทั่วถึงถือเป็นเรื่องดี เรื่องอย่างนี้ไม่ต้องปิดบัง
ส่วนพรรคภุมิใจไทย จะร่วมประชุมด้วยหรือไม่ พรรคยังไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้ เพราะยังไม่มีใครทราบว่า จะเรียกไปหารือเรื่องอะไร นอกจากนั้น พรรคเก่ายังมีข้อจำกัดที่ไม่สามารถจัดประชุมพรรคได้ ทำให้พรรคยังไม่มีมติว่าจะนำเรื่องไหนไปเสนอ การเชิญพรรคการเมืองไปจึงค่อนข้างอิหลักอิเหลื่อในแง่ข้อกฎหมาย
ดังนั้น หากคสช.บอกว่าจะหารือเรื่องสำคัญ ให้พรรคไปร่วม ก็ควรปลดล็อก ให้พรรคการเมืองได้หารือกันก่อน แล้วจึงค่อยนำความเห็นของพรรคไปร่วมประชุมด้วย
อย่างไรก็ดี บางเรื่องเป็นเรื่องที่รัฐบาลและ คสช.คิดเอง ทำเอง หารือไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะพรรคก็ต้องปฏิบัติตามนั้น เช่นกัน หากจะมาให้พรรคพูดเรื่องนโยบายพรรค เชื่อว่าพรรคคงไม่อยากไปพูดคุยด้วย เพราะเป้นเรื่องภายใน แต่ถ้าจะไปประชุมเรื่องที่กำลังเป็นอุปสรรของพรรคการเมือง รวมถึงการกำหนดวันเลือกตั้ง คิดว่าทุกพรรคการเมืองจะสนใจ
เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่า จะไม่ปลดล็อกให้พรรคการเมืองอย่างสมบูรณ์ แต่เน้นการเปิดให้พรรคหาสมาชิกได้ ส่วนการหาเสียงเลือกตั้งยังไม่อนุญาต เพราะต้องรอให้กฎหมายลูกเรียบร้อยก่อน นายทรงศักดิ์กล่าวว่า เจตนาของ พล.อ.ประวิตรอาจต้องการให้การเลือกตั้งขับเคลื่อนต่อไปได้ แต่เรื่องการเมืองเกี่ยวข้องกับประชาชน พรรคการเมืองต้องสื่อสารและรับฟังประชาชน หากให้พรรคไปหาสมาชิกทั้งที่พรรคยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับคนที่ต้องการเป็นสมาชิกพรรคเลย จะเป็นไปได้หรือ
นอกจากนั้น ก็ต้องมาคิดต่อว่าการสื่อสารทำความเข้าใจถือเป็นการหาเสียงหรือไม่ บอกว่าแค่ห้ามหาเสียงก็ทำให้งง เพราะกว้างเกินไป เรื่องที่ควรให้พรรคดำเนินการได้ควรเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเดินหน้าเพื่อการเลือกตั้ง เช่น การหาสมาชิก การประชุมเพื่อตั้งสาขา นอกจากนั้น ยังมีเรื่องของไพรมารี่โหวต ซึ่ง กกต.ยังไม่กำหนดว่าแต่ละจังหวัดต้องมี ส.ส.กี่คน เช่นนี้แล้ว จะทำไพรมารี่โหวตกันได้อย่างไร
“ ประเทศไทยสงบมาตั้ง 4 ปี แต่ผมเชื่อว่าประชาชนได้บทเรียนอันเกิดจากความไม่สงบที่ทำให้เขาไม่ได้เลือกตั้ง และเขาพร้อมเลือกตั้งแล้ว ถ้าเลื่อนออกไปเพราะมีความจำเป็นคนก็รับได้ แต่ถ้าเลื่อนเพราะมีอุปสรรคจากการที่ผู้มีอำนาจไม่ปล่อยให้มีการแก้ไขปัญหา ถือเป็นการจงใจ จะตอบสังคมและประชาชนได้ยาก เพราะฉะนั้นควรเปิดให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งไม่ใช่กฎหมายที่ คสช.กำหนดเอง” นายทรงศักดิ์กล่าว