นายไพบูลย์ นิติตะวัน ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป กล่าวถึงเบื้องหลังการตั้งพรรคการเมือง สู้ศึกเลือกตั้งในอนาคต ว่า การตั้งพรรคเกิดจากความไม่พอใจ ที่ฝ่ายการเมืองในระบบเลือกตั้ง มักจะบอกว่า การทำพรรคให้ชนะใจประชาชน ถ้าไม่ซื้อเสียงจะประสบความสำเร็จยาก พอเข้าไปในสภา ก็มักจะอ้างว่ามันต้องต่อรองกัน ไม่เช่นนั้นจะทำงานลำบาก ฟังบ่อยเข้า เลยอยากจะลองดูว่ามันยากเย็นขนาดนั้นจริงหรือไม่
กอปรกับได้กำลังใจมาจากการที่รัฐธรรมนูญผ่านประชามติถล่มทลาย เท่ากับว่าคนอยากเห็นการเมืองใหม่ สอดคล้องกับแนวคิดเรื่องสร้างการเมืองระบบคุณธรรม ปฏิเสธระบบอุปถัมภ์ จึงตั้งพรรคขึ้นมา มาวันนี้ ก็ยังยึดแนวทางเดิม เราเลือกรับแต่คนดี ไม่มีรอยด่างพร้อย การเมือง มันต้องได้คนสะอาดไปปัดกวาด แน่นอนว่ายังหนุนพลเอกประยุทธ์ เป็นนายกฯ เพราะพรรคเราไม่มีมคนเด่น คนดัง เสนอไป คงจะถูกเขาตีตก ขณะที่พลเอกประยุทธ์ ท่านไม่มีรอยด่างพร้อย คุณสมบัติตรงใจพรรค
เมื่อถามถึงความพร้อมของคนไทยกับระบอบประชาธิปไตย นายไพบูลย์ระบุว่า พร้อมหรือไม่ ตอบลำบาก แต่ฝ่ายกองเชียร์ประชาธิปไตย ล้วนไม่เข้าใจหลักการประชาธิปไตยที่ต้องยอมรับความเห็นต่าง จึงไม่รู้ว่า อ้างตัวเองเป็นกลุ่มนิยมประชาธิปไตยได้อย่างไร
“วันงานเสวนาล่าสุด มีกองเชียร์ของคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, คุณจาตุรนต์ ฉายแสง เวลาผมขึ้นพูด ปรากฏว่ามีเสียงโห่ ตกลงคือ กองเชียร์ฝ่ายประชาธิปไตยไม่รับฟังความเห็นต่างใช่ไหม ทั้งที่เป็นหลักการสำคัญเลยนะ อีกอย่างคือคุณธนาธรบอกว่า ต้องรวมเสียงฝ่ายประชาธิปไตยให้ได้เท่านั้นเท่านี้เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ สรุปคือ ถ้าไม่เห็นด้วยกับเขา ไม่ไปร่วมกับเขา เท่ากับเป็นเผด็จการหรือ แบบนี้ มันเป็นการอ้างประชาธิปไตยหาประโยชน์ให้ตัวเองมากกว่า”
เมื่อถามถึงความสัมพันธ์กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายไพบูลย์ ระบุว่า ตนไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันทั้งสิ้น สมัยก่อน ไปขึ้นเวที กปปส. เพราะอยากมีพื้นที่ในการสื่อสารเพื่อให้เกิดการพัฒนาแก่ชาติบ้านเมือง แต่ไม่หวังจะไปสร้างคอนเน็กชั่นกับใคร เช่นเดียวกับพลเอกประยุทธ์ ตนก็มีระยะห่าง ไม่อยากให้ได้ชื่อว่าเป็นพรรคที่ได้รับการอุปถัมภ์จาก คสช.