การเดินทางเยือนสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการครั้งแรกของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งเพราะเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสตวามไม่ชัดเจนในเรื่องของกานเลือกตั้ง หลังจากที่ผ่านมามีการเลื่อนการเลือกตั้งมาโดยตลอด และสหภาพยุโรปเองก็ให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าว
หลังจากถึงประเทศอังกฤษ พลเอกประยุทธ์ ได้เข้าพบหารือกับนางเทรีซา เมย์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ที่บ้านหมายเลข 10 ถนนดาวน์นิ่ง และยืนยันว่า ต้นปีหน้าจะมีการเลือกตั้งแน่นอน เพราะกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งต่าง ๆ หลายฉบับทะยอยประกาศมีผลบังคับใช้แล้ว และการเดินหน้าเข้าสู่ประชาธิปไตยของไทย จะต้องมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ และเหมาะกับบริบทของความเป็นไทยด้วย นอกจากนั้นพลเอกประยุท์ ยังเปิดเผยด้วยว่า ประเทศไทยจะต้องเตรียมตัวจัดงานเฉลิมฉลองพิธีบรมราชาภิเษก ของ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ที่จะทำไปพร้อมกัน
รายงานข่าวเปิดเผยว่า ภารกิจหลักในการเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการครั้งนี้ มีขึ้นเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางด้านการค้าการลงทุนระหว่างกัน เพื่อทำให้การค้าการลงทุนในไทยและภูมิภาคอาเซียนดีขึ้นเพราะไทยมีศักยภาพ เป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจดีอันดับ 2 ในอาเซียน จึงอยากให้สหราชอาณาจักร เห็นความสำคัญของประเทศไทย เข้ามาเป็นเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างกัน เป็นประตูเดินหน้าสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจในอาเซียน
ตามกำหนดการ ในวันที่ 22 มิถุนายน 2562 พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะ จะเดินทางต่อไปยังกรุงปารีสของฝรั่งเศสเพื่อหารืออย่างเป็นทางการกับนายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีของฝรั่งเศส ทั้งนี้เป็นการเดินทางเยือนอังกฤษและฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่ คสช. เข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน
นายมาร์ค ฟิลด์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ฝ่ายกิจการเอเชียและแปซิฟิก กล่าว ว่า ทางรัฐบาลอังกฤษ “ยังมีความเข้าใจว่า” การเลือกตั้งทั่วไปในประเทศไทยจะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 เราประกาศอย่างชัดเจนมาตลอดว่าเราอยากเห็นการกลับสู่การเลือกตั้งแบบมีส่วนร่วมอย่างเต็มรูปแบบในประเทศไทยอย่างเร็วที่สุด เรายังมีความเข้าใจว่าวันเลือกตั้งจะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พระราชพิธีบรมราชาภิเษกจะมีขึ้นก่อนหน้านั้น” รมช. ตปท. กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ บีบีซีไทย 1 วัน ก่อนการพบปะกันของผู้นำ 2 ประเทศ ซึ่งเป็นการพบระดับนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี
ผมหวังว่ากำหนดการที่ตั้งไว้จะช่วยให้เราเดินหน้าสู่การเลือกตั้งได้ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าตามที่ได้หารือกันไว้ในอดีต อย่างไรก็ตามผมยอมรับว่าเรายังไม่สามารถเชื่อได้หมดใจว่าจะมีการเลือกตั้งได้ในเวลานั้นจริง จนกว่าเราจะทราบว่าพิธีบรมราชาภิเษกจะมีขึ้นเมื่อไร”
สำหรับบรรยากาศ ในช่วงพลเอกประยุทธ์ พบปะหารือกับนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้มีกลุ่มผู้สนับสนุนและผู้ต่อต้านมาชุมนุมที่ด้านนอกบ้านหมายเลข 10 โดยหนึ่งในผู้สนับสนุนกล่าวว่า “เราให้กำลังใจนะคะ เพราะว่ารัฐบาลชุดของนายกฯ ลุงตู่ หรือรัฐบาล คสช. จริง ๆ แล้ว ท่านทำงานหนักนะคะ เหนื่อยนะคะ เพื่อที่จะปฏิรูปประเทศไทยให้ทัดเทียมกับประเทศอื่น ๆ นำความเสมอภาคและความสงบมาสู่ประเทศนะคะ พวกเราเนี่ยออกมาด้วยใจ เราต่างก็เห็นเขาประกาศว่าท่านมา ก็ต่างคนต่างมานะคะ ต่างก็ดีใจ แล้วก็ต่างคนต่างถือป้ายมาเพื่อมาต้อนรับนายกฯ ลุงตู่ นะคะ”
ด้านนายใจ อึ๊งภากรณ์ อดีตอาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งปัจจุบันลี้ภัยอยู่ในสหราชอาณาจักร ได้เป็นแกนนำผู้ชุมนุมต่อต้าน พล.อ. ประยุทธ์ และประท้วงการที่ พล.อ. ประยุทธ์ มาพบกับนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เพื่อที่จะเซ็นสัญญาการลงทุน หรือการซื้ออาวุธ หรืออะไรก็ตาม เพราะว่าเรามองว่า รัฐบาลเผด็จการของไทยเป็นรัฐบาลที่ไม่มีความชอบธรรม ยึดอำนาจโดยใช้กระบอกปืน และอีกอย่างหนึ่ง สิ่งที่เราอยากจะฝากไปถึงนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยที่ไทย ซึ่งก็โดนกลั่นแกล้งตลอดเวลา โดนปราบปรามจากรัฐบาลเผด็จการ ก็คือว่า อย่าไปหวังพึ่งรัฐบาลตะวันตกเพราะนี่เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า รัฐบาลอังกฤษ หรือรัฐบาลฝรั่งเศส ไม่จริงใจในการสนับสนุนประชาธิปไตย” นายใจ กล่าว
คณะของนายกฯประกอบด้วย รัฐมนตรีสำคัญอาทิ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว. ต่างประเทศ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว. พาณิชย์ นายอุตตม สาวนายน รมว. อุตสาหกรรม และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
สำหรับการเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ และภารกิจสำคัญคือการพบกับนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร และนักธุรกิจชั้นนำของอังกฤษ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นและเชิญชวนให้เข้าไปลงทุนในประเทศไทย