นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวกับ “มติชน” ถึง กระแสดูดอดีต ส.ส.พรรคเข้าสู่พรรคพลังประชารัฐว่า ยังไม่เห็นใครที่พรรคถือว่าเป็นสมาชิกหรือเป็นส่วนหนึ่งของพรรค ภท.นั้นหลุดออกไปแม้แต่คนเดียว ส่วนใหญ่ คนที่มีข่าวนั้น ชื่ออยู่กับพรรค แต่ตัวไม่ได้อยู่กับพรรค บางคนสอบตก ในการเลือกตั้ง 2554 แล้วก็เลิกยุ่งเกี่ยวกับพรรค เราก็ต้องปล่อยไป แต่สำหรับในกลุ่มผู้สมัครในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดปี 2557 ยังอยู่กันครบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าอดีต ส.ส.ที่ออกจากพรรค ภท.เป็นกลุ่มวงน้ำยมของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมา นายอนุทิน กล่าวว่า กลุ่มนั้น ยิ่งไม่มีความผูกพัน อ่านรายชื่อบางคนยังงงว่าเคยอยู่พรรค ภท.หรือ แสดงว่าบุคคลเหล่านั้นคงยังไม่เข้าขั้น ก็ดีมีคนช่วยรับไป ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรค ภท.ไม่ได้รับผลกระทบจากกระแสดูดในครั้งนี้ใช่หรือไม่
นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มี มีแต่ความดีใจ พรรค ภท.อยู่กันแบบพี่น้องต้องให้เกียรติกัน ทอดทิ้งกันไม่ได้ เพราะการออกมาจากพรรคพลังประชาชนทำให้มีภาระผูกพันกันว่าต้องดูแลกันไปให้นานที่สุด ไม่ได้สนใจประโยชน์ซึ่งหน้าแล้วทอดทิ้งคนที่ร่วมเป็นร่วมตายมากับเรา
“ข้อดีอย่างหนึ่งของความเป็นพรรค ภท. คือถ้าอยู่กันไม่ได้ก็แยกย้ายกันไป แต่อย่าโกรธกัน รักษามิตรภาพไว้ ในทางการเมืองการย้ายพรรคไม่ใช่เรื่องแปลก ย้ายทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง แต่คนที่ย้ายบ่อยๆ ยังไม่เห็นใครที่ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน ส.ส.ที่เขามีความมั่นใจในศักยภาพและความนิยมของตัวเอง ไม่มีใครเปลี่ยนพรรคหรอก”
ด้าน รศ.วันวิชิต บุญโปร่ง นักวิชาการจากวิทยาลัยรัฐกิจ ม.รังสิต กล่าวว่า ท่าทีของนายอนุทิน ถือเป็นสัญญาณการพัฒนาของพรรคภูมิใจไทย ที่ต้องการจะสื่อกับสังคมว่า พรรคภูมิใจไทยมีจุดยืนกับเรื่องพลังดูด ว่าไม่เห็นด้วย ซึ่งการมีจุดยืนต่อเรื่องใดก็ตาม แม้มันจะทำให้บางฝ่ายไม่พอใจ แต่มันคือจุดเริ่มต้นหากพรรคหนึ่งหวังว่าจะเป็นสถาบันทางการเมือง