รศ. สุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวในรายการริงไซด์นิวส์ ถึงความเคลื่อนไหวทางการเมือง ว่า ในช่วงนี้มีการเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทยหรือ รปช.ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ดึงเอานายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ และอดีตแกนนำกปปส.และแกนนำพันธมิตร เข้ามาร่วมกันในการขับเคลื่อนพรรคแต่หลังจากเปิดตัวพรรคและมีความเคลื่อนไหวในช่วงหนึ่ง ในปัจจุบันเงียบหายไป ซึ่งก็เป็นที่แน่นอนว่า นายสุเทพ แกนนำพรรคจะเคลื่อนไหวที่ภาคใต้ อันเป็นฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ ในพื้นที่กทม.คงจะใช้บรรดาแกนนำที่เคยมีบทบาทในเวทีกปปส.และเวทีพันธมิตร เป็นคนขับเคลื่อนหรือลงสมัครในนามพรรค ซึ่งไม่น่าหนักใจอะไร เพราะไม่ต่างจากพรรคพันธมิตรเดิม
ในขณะเดียวกัน พรรคที่น่าสนใจคือ พรรคพลังประชารัฐ หรือ พปชร. ที่มีแกนนำคือ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นานสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ในนามกลุ่มสามมิตร ที่เดินหน้าในการดึงอดีตส.ส.ที่เคยสังกัดพรรคการเมืองอื่นเข้ามาอยู่ในพรรค โดยเฉพาะการพุ่งเป้าที่อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย เพราะถือว่าเป็นส.ส.ที่มีโอกาสในการชนะเลือกตั้ง ดังนั้นแกนนำพรรคพลังประชารัฐจึงพุ่งเป้าในการดูดเข้ามาเป็นสมาชิกพรรค รวมทั้งเดินหน้าในการดูดส.ส.ระดับบิ๊กเนมอย่างเต็มกำลัง กรณีดังกล่าวทางการเมืองในอดีตเคยเกิดขึ้นมาแล้วคือพรรคสามัคคีธรรม ที่สามารถดึงอดีตส.ส.มาร่วมงานจนกลายเป็นพรรคอันดับหนึ่งมีโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาล แต่มาตกม้าตายในขั้นตอนของการนำเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี ที่ไม่ได้นำเสนอชื่อของหัวหน้าพรรคแต่เป็นการเสนอรายชื่อคนนอก ซึ่งเชื่อว่าพรรคพลังประชารัฐกำลังเดินตามเกมที่พรรคสามัคคีธรรมเคยทำทางไว้ แต่เปลี่ยนมาเป็นชูคนของตัวเองซึ่งชัวร์กว่า ชอบธรรมกว่า
รศ.สุขุม กล่าวต่อว่า พรรคพลังประชารัฐ มองพรรคเพื่อไทยเป็นขั้วตรงข้าม ดังนั้นในการดึงนักการเมือง พรรคพลังประชารัฐหมายมั่นปั้นมือในการดึงคนของพรรคเพื่อไทยเป็นพิเศษ เพื่อตัดกำลังคู่แข่ง ขณะเดียวกัน ก็ดึงอดีตนักการเมืองของพรรคอื่นด้วย โดยเลือกคนที่มีความนิยมสูง ทำงานพื้นที่ได้ดี เพราะเขาเชื่อว่าถึงอุดมการณ์จะเป็นเรื่องที่คนให้ความสนใจ แต่สุดท้ายคนก็เลือกคนที่ทำให้เขาอยู่ดี กินดี ในแต่ละพื้นที่มีคนแบบนี้อยู่ไม่กี่คน นี่คือเป้าหมายของพรรคพลังประชารัฐ หากได้คนกลุ่มนี้ มาอยู่ในพรรค ก็รับประกันคะแนนเสียงได้เลย
“พรรคพลังประชารัฐไม่หยุดกิจกรรมดึงอดีต ส.ส.แน่นอน อีกทั้งคนที่เดินเกมระดับรองนายกรัฐมนตรีชื่อชื่อสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ดังนั้นประมาทไม่ได้ จากจำนวนอดีตส.ส.ที่มีรายชื่อเข้าร่วมงานกับพรรคปลังประชารัฐ คาดว่าพรรคพลังประชารัฐจะได้จำนวนส.ส.อย่างน้อย 50 คน และถ้าดึงมาได้มากกว่านี้ คะแนนก็ยิ่งมากขึ้น จำนวน ส.ส.จะเพิ่มมากขึ้นแน่นอน”