นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. กล่าวในรายการริงไซด์การเมือง ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมากล่าวถึงการย้ายพรรคของส.ส.พรรคเพื่อไทย ว่า การพูดของนายทักษิณไม่ใช่การครอบงำพรรคการเมือง เพราะพฤติกรรมตนมองว่าไม่มีผลมากนัก เพราะไม่มีหลักฐานอะไรพิสูจน์ว่านายทักษิณกำลังสั่งคนในพรรค และนายทักษิณไม่ได้พูดว่าจะให้ใครสมัครหรือไม่ให้ใครสมัคร
สำหรับกรณีดังกล่าว กกต.เองก็ต้องมาดูว่า มันเข้าข่ายหรือไม่และมีคนร้องหรือไม่ กรณีที่มีคนร้องชัดเจนก็ต้องหยิบมาพิจารณา ซึ่งในกรณีของคุณทักษิณ ทาง กกต.มองว่าเป็นความปรากฏก็ตั้งเรื่องในการพิจารณา ซึ่งคงใช้เวลาประมาณ 2 เดือนในการพิจารณาว่าจะรับเรื่องหรือไม่ ขอเตือน กกต.ว่าอย่าเอาใจใครจนเกิดความเสียหายกับ กกต.
นายสมชัย กล่าวต่อว่า กรณีของกลุ่มสามมิตร ที่มีการเคลื่อนไหวทางการเมือง จนบางคนมองว่าเป็นการทำผิดกฎหมาย ใช้ทรัพย์ ล่อให้เข้ามาเป็นสมาชิกพรรค หากมองภาพรวมแล้วก็ต้องบอกว่ากลุ่มสามมิตรยังไม่เข้าข่ายกระทำผิดกฏหมาย เพราะกลุ่มสามมิตรยังไม่ใช่พรรคการเมือง อาจจะเป็นการไปกินข้าวกันเฉยๆก็ได้ ซึ่งการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นยังไม่ได้เคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งเป็นกรณีเดียวกับนายทักษิณ ซึ่งยังไม่มีการเชื่อมโยงกับพรรคพลังประชารัฐ
ส่วนทีมีข่าวการเคลื่อนไหวก็เป็นเพียงการสร้างราคาคุยมากกว่า เพราะเอาเข้าจริงๆการเลือกตั้งยังไม่เกิดขึ้นใครจะรู้ว่าคนไหนจะได้เป็นส.ส. ส่วนกรณีที่มีข่าวในโซเชี่ยลออกมาว่ามีการเสนอประโยชน์ให้กับผู้สมัครหรือประชาชนให้เข้ามาร่วมเป็นสมาชิกพรรค อันนี้ถือว่าผิดกฏหมายแน่นอน แต่เชื่อถือได้หรือไม่ แต่หากมีพยานเป็นตัวบุคคลแล้วออกมามีหลักฐานชัดเจนอันนี้ถือว่าเป็นความผิดทางกฏหมาย
นายสมชัย กล่าวด้วยว่า พรรคพลังประชารัฐ ที่มีการใช้ชื่อ “ประชารัฐ” เป็นเสมือนดาบ 2 คม เป็นจุดอ่อนทางการเมือง เพราะกลายเป็นว่าเป็นการ ใช้ทรัพยากรของรัฐทางการเมืองมากกว่าหากมีคนไปร้องอาจจะเข้าข่ายความผิดได้