นายดิเรก ถึงฝั่ง อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. และอดีตสมาชิกวุฒิสมาชิก หรือ ส.ว.จังหวัดนนทบุรี เปิดเผยถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) เลขาธิการกลุ่ม กปปส. ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชน ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อว่า “suthep thaugsuban” โดยนายสุเทพ กล่าวตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยไม่เอาอีกแล้วการเมืองประเภททุจริตชาติแผ่นดิน ระบบทุนสามานย์ รวมถึงวงจรอุบาทว์ ที่เห็นการเลือกตั้งเป็นเพียงพิธีกรรมในการเข้าสู่อำนาจ ที่ใช้อำนาจเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ของครอบครัว กิจการส่วนตัว ซึ่งในอดีตล้วนเป็นพรรคการเมืองของผู้มีอำนาจ ตั้งพรรคเพื่อใช้เป็นเครื่องมือแสวงหาอำนาจ ค้ำจุนอำนาจ ทั้งนี้ การเมืองที่ดี ประชาชนต้องเป็นผู้กำหนดบุคลากรทางการเมือง และควบคุมนโยบายทั้งหลายได้ ในสถานการณ์เช่นนี้ จึงไม่มีทางเลือกอื่นว่า
จากการพูดของคุณสุเทพที่ออกมาบอกว่าการเมืองสามานย์นั้น ไม่อยากให้ใช้คำว่า “การเมือง” เพราะการเมืองไม่เคยสามานย์ มีแต่คนต่างหากที่ทำตัวเป็นนักการเมืองสามานย์ ที่ผ่านมามีการใช้วาทกรรมเพื่อโจมตีนักการเมืองด้วยกันต่างกรรมต่างวาระมาก เพียงเพื่อโจมตีกัน
ในภาพของการเมืองนั้น การเมืองไม่เคยสามานย์ คำว่าสามานย์เป็นเพียงการสร้างวาทกรรม ดังนั้นทุกคนต้องมาเรียนรู้ร่วมกันในการเพื่อให้เข้าใจในบริบทของคำว่าประชาธิปไตยให้มากขึ้น จำเป็นที่จะต้องมีการพัฒนาคนให้เรียนรู้ประชาธิปไตยมากขึ้น รวมทั้งพัฒนาคนรุ่นใหม่ เข้ามาสู่การเมืองเข้ามาทำงาน เข้ามาทำงานทางการเมือง ทำหน้าที่ที่ถูกต้องในระบอบประชาธิปไตย เมื่อประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจเลือกพรรคการเมืองไหนเข้ามาบริหารประเทศ ทุกพรรคทุกฝ่ายต้องยอมรับการตัดสินใจของประชาชน พรรคการเมืองที่ไม่ได้รับการเลือกจากประชาชนหรือไม่สามารถชนะใจประชาชนได้ ไม่ได้เลือกก็ต้องให้เขาบริหารประเทศไป ก็ต้องสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ เพราะหากนักการเมืองหรือพรรคการเมืองไหนที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนแล้วหากบริหารประเทศไม่ดีเชื่อว่าเลือกตั้งครั้งหน้า ประชาชนก็ไม่เลือกเอง
นายดิเรก กล่าวด้วยว่า ตนไม่เข้าใจว่านายสุเทพต้องการอะไร ในการพูดเรื่องแบบนี้ เพราะคุณสุเทพเองก็เคยอยู่ในการเมืองมานาน แต่การออกมาพูดแบบนี้มันกลายเป็นการลืมที่มาของตนเอง ในขณะเดียวกันพรรคการรวมพลังประชาชาติไทย ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะมี ส.ส.หรือไม่ หรือเอาคนที่ไหนมาลงสมัครในนามพรรค ตนเป็นห่วงนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ นักวิชาการชื่อดังว่าจะมาเสียคนจากการเข้ามาทำงานตรงนี้หรือไม่
นอกจากนี้ วิธีการที่ถูกต้องในการทำให้ประเทศเป็นที่ยอมรับนั้น นอกจากการพัฒนาคนแล้ว ที่ทำคัญต้องมีการร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย คือ มีการยกร่างให้ประชาชนเป็นศูนย์กลางอำนาจ ขณะเดียวกันที่มาของฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติก็ต้องมาจากประชาชน รวมทั้งสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. ก็ต้องมาจากประชาชน ในหลายประเทศ ส.ว.ไม่มีอำนาจอะไรเลย แต่ในประเทศไทย ส.ว.ไม่ได้มาจากประชาชนแต่มีอำนาจมากมาย ทั้งๆที่ทิศทางและที่มาไม่ได้มาจากประชาชน