นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวในรายการริงไซด์การเมืองว่า ตนเข้ามาทำงานทางการเมืองตั้งแต่ปี 2539 ครั้งแรกรับตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ก่อนที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข 2 สมัย และเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในสมัยที่เป็นรัฐมนตรีช่วยกระทรวงสาธารณะสุข ในสมัยนั้นตนเน้นในการดูแลสุขลักษณะให้กับประชาชน ซึ่งในช่วงนั้นมีการฮือฮามาก นโยบายให้สร้างห้องสุขาที่ได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการให้ประชาชนตระหนักถึงคำว่า กินร้อนช้อนกลาง และการให้ความสำคัญกับห้องน้ำจนเป็นที่มาของฉายาที่ว่า มิสเตอร์ แฮปปี้ ทอยเล็ต ซึ่งตนก็อยากให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาสุขอนามัยรอบด้านมากขึ้น
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า การทำงานทางการเมืองนั้นพรรคภูมิใจไทยนั้น เป็นพรรคการเมืองพูดคุยได้ทุกพรรคการเมือง เพราะเป็นเพื่อนกันหมดทุกพรรค การพูดคุยกันทางการเมืองเป็นเรื่องปกติ ในทางการเมืองแล้วตนในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มีหน้าที่ในการส่งลูกพรรคสมัครรับเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย
ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งเมื่อ 2 กุมภาพันธ์ ปี 2557 ตนก็ส่งผู้สมัครของพรรคลงสมัครรับเลือกตั้ง แม้จะมีผู้ใหญ่บอกว่า การเลือกตั้งในปี 2557 อาจจะเป็นโมฆะ แต่ตนก็ปรึกษาหารือกับคณะกรรมการบริหารพรรค แล้วตัดสินใจส่งผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทย ลงเลือกตั้ง ตามกติกาประชาธิปไตย คือ เมื่อเป็นพรรคการเมืองก็ต้องเล่นตามกติกาประชาธิปไตย
พรรคภูมิใจไทย มีปรัชญาในการทำงานคือ เอาประเทศ เอาประชาชน เรามาทำงานการเมือง เราต้องการให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ในฐานะนักการเมืองต้องทำหน้าที่ในการบริการประชาชนอย่างเต็มที่ และในการทำงานทางการเมือง ตนในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไม่มีใครสั่งตนได้ เราต้องให้ความเคารพตัวเองและเคารพทุกคะแนนที่ประชาชนมอบให้คะแนนมา เมื่อประชาชนเชื่อมั่นในนโยบายของพรรค จึงเลือก ส.ส.ของพรรค ไม่มีใครมาสั่งตนได้ คนที่สั่งตนได้คือประชาชนสั่งให้ตนมาทำงานรับใช้ประชาชน รวมทั้งที่สำคัญตนฟังทุกความเห็นที่เข้ามา ฟังทุกคำแนะนำที่เข้ามา เพื่อนำไปประมวลผล ว่าจะทำได้หรือไม่อย่างไร
“การเมืองในบ้านเรา มีการเปลี่ยนผ่านไปเยอะมาก จากยุคหนึ่ง จากรุ่นหนึ่งไปสู่รุ่นหนึ่ง ไม่มีการสร้างวาทกรรมทางการเมืองมาทำลายกัน ผมอยากเห็นภาพภายหลังเลือกตั้ง คือการให้การยอมรับผลการเลือกตั้งที่ออกมาให้เกียรติ์ประชาชนกันมากขึ้น จะทำให้การเมืองไทยมีภาพที่ดีขึ้น อยากให้มองไปข้างหน้าเพื่อสร้างการเมืองที่ประชาชนให้การยอมรับ และ นักการเมืองทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ต้องมองไปข้างหน้า ไม่นำพาประเทศเข้าสู่กองเพลิง และที่น่าสนใจคือ ปัจจุบันมีพรรคการเมืองเกิดใหม่มาก หากมีการจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้น ความสำคัญของพรรคขนาดกลาง จะมีส่วนช่วยในการหาทางออกจากกองเพลิงให้กับการเมืองและหาทางออกให้กับประเทศได้อย่างแน่นอน” นายอนุทิน กล่าวในที่สุด