นายแพทย์สำเริง แหยงกระโทก อดีตนายก อบจ.นครราชสีมา เปิดเผยถึงภาพรวมจังหวัดนครราชสีมา ว่า ในปีผ่านมาเศรษฐกิจในโคราชไม่มีผลกระทบมากนัก เพราะภาพรวมยังดีอยู่ ทั้งนี้ ห้างสรรพสินค้าที่เพิ่มมากจากเดิมมีเพียงเดอะมอลล์และเซ็นทรัล แต่ปัจจุบันมีผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าให้ความสนใจมาลงทุนในจังหวัดมากขึ้น ส่งผลให้คนมีทางเลือกเดิน จากเดิมมีไม่กี่ห้าง แต่ปัจจุบันคนก็จะเดินห้างใหม่ๆก็เฉลี่ยกันไป มองว่าเศรษฐกิจระดับบนยังไปได้ แต่ในส่วนของร้านค้าร้านขายตามพื้นที่รอบนอกเริ่มมีปัญหาคนมาจับจ่ายใช้สอยน้อย
โดยการขายสินค้าระดับล่างค่อนข้างฝืด ที่เป็นเช่นนี้เพราะรายได้คนในจังหวัดลดลง ส่งผลให้การจัดงานขายสินค้า หรืองานประจำปี มีคนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก แต่มีการจับจ่ายซื้อของแต่ซื้อปริมาณน้อย ภาพรวมก็คือเศรฐกิจในเมืองยังดีอยู่ แต่ตามพื้นที่รอบนอกไม่ดีเท่าควร ที่เป็นเช่นนี้เพราะควรราคาสินค้าเกษตรแม้จะดีขึ้นแต่ก็ยังไม่ดีเหมือนที่ผ่านมา ถือว่าราคาข้าวตกพอสมคสวร หากเทียบกับช่วงที่มีโครงการรับจำนำข้าว
ทั้งนี้ หากโครงการทางหลวงพิเศษ บางปะอิน-นครราชสีมา (มอเตอร์เวย์) ก่อสร้างแล้วเสร็จ ก็อาจจะช้วยได้ในระดับหนึ่ง แต่หากมองภาพใหญ่หวั่นว่าจังหวัดนครราชสีมาจะกลายเป็นเพียงเมืองผ่านเท่านั้น นักท่องเที่ยวก็จะมุ่งไปจังหวัดอื่นๆ ส่งผลให้โรงแรมที่มีอยู่ในพื้นที่จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย เพราะจากภาพรวมที่ผ่านมาพบว่านักท่องเที่ยวลดลงไปมาก
นายแพทย์สำเริง กล่าวด้วยว่า ในส่วนของภาคการเมือง ประชาชนในพื้นที่แบ่งออกเป็น 2 ขั้วคือ ทั้งอยากและไม่อยากให้มีการเลือกตั้ง โดยจากการสำรวจพบว่าคนชั้นกลางขึ้นไปอยากให้มีเลือกตั้ง ทั้งพ่อค้า นักวิชาการ อยากให้มีการเลือกตั้ง เพราะเชื่อว่า ถ้าเลือกตั้งแล้วเชื่อว่าเศรษฐกิจน่าจะดีขึ้น แต่ก็มีบางส่วนอยากให้มีความสงบ แบบนี้ดีอยู่แล้ว
ในขณะเดียวกันในส่วนของภาคการเมือง เชื่อว่าการเลือกตั้งในปี 2562 ในภาพรวมน่าจะเข้มข้นมากขึ้น จากเดิมที่ในจังหวัดนครราชสีมา มีการแข่งขันอยู่ที่ 3 พรรคการเมือง คือ พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย และพรรคชาติพัฒนา แต่ล่าสุดมีพรรคพลังประชารัฐ เริ่มมีบทบาทมากขึ้น การเลือกตั้งคงมีการแข่งขันกันรุนแรงและจริงจัง เดี๋ยวนี้ทุกคะแนนมีความหมาย แต่ละพรรคคัดเลือกผู้ลงสมัครที่ ดี เด่น ดัง มาเป็นผู้เสนอตัวให้กับประชาชนเลือกมากขึ้น