รศ.สุขุม นวลสกุล นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวในรายการริงไซด์การเมืองว่า ส่วนตัวสนใจปรากฏการณ์นักการเมืองลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เพราะเป็นจังหวัดใหญ่รองจากกรุงเทพฯ มี ส.ส.จำนวนมาก และที่สำคัญคือมีความหลากหลายพรรคในพื้นที่ ซึ่งไม่เคยเห็นการเหมาเข่งพรรคใดพรรคหนึ่ง จึงถือว่าเป็นเสน่ห์ทางการเมืองในพื้นที่นี้ ทำให้พรรคที่จะไปปักธงมีความหวังทั้งนั้น
ขณะที่การลงพื้นที่ ครม.สัญจรของรัฐบาลที่จังหวัดอุบลราชธานีและอำนาจเจริญ ซึ่งมีข่าวว่าอาจมีนักการเมืองไปต้อนรับ ครม.นั้นถือเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่ควรสังเกตคือ ตนมั่นใจว่าต่อจากนี้ รัฐบาลไปจังหวัดไหนก็แล้วแต่ คนของพรรคเพื่อไทยจะไม่ออกมาต้อนรับแน่นอน
ส่วนกรณีที่นายนายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคพรรคภูมิใจไทย แนะให้นักการเมืองก้าวข้ามเรื่องพลังดูด เพราะประชาชนเบื่อแล้ว รวมถึงการที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ออกมากำชับให้ลูกพรรคหยุดตอบโต้ปมพลังดูดว่า ที่ทั้งสองคนพูดนี้ นักการเมืองควรเก็บเอาไปคิด ส่วนตัวมองว่าให้เลิกตีกัน และเลิกชี้หน้าว่าอีกฝ่ายเลว ถ้าจับกันได้จริงๆเรื่องการดูดค่อยว่ากัน แต่ถ้าอยู่แค่ขั้นสงสัยก็อย่าเพิ่งว่ากัน เพราะเรื่องการย้ายพรรคเป็นเรื่องธรรมดา สมัยก่อนนักวิชาการจะเรียกปรากฏการณ์นี้หลังการยุบสภาฯว่า “กรุแตก”
“ผมไม่เห็นด้วยกับการที่นักการเมืองจะมานั่งชี้หน้ากัน เพราะมันทำให้ดูเหมือนว่านักการเมืองเป็นคนเลว เมื่อชี้กันไป-มาก็จะกลายเป็นว่าเลวกันหมด มันเลยเกิดวลีขึ้นมาว่าเวลาเลือกตั้งให้เลือกคนที่เลวน้อยที่สุด แสดงว่าคนลงเลือกตั้งมีแต่คนเลวทั้งนั้น ซึ่งมันไม่ดีต่อระบอบประชาธิปไตย หากนักการเมืองเป็นคนไม่ดีในสายตาประชาชนแล้ว คนจะไม่ศรัทธาต่อการเลือกตั้ง ไม่ศรัทธานักการเมือง ประชาธิปไตยจะไปยาก เพราะฉะนั้นอย่าสาวไส้กันเอง ผมจึงบอกว่าที่คุณภูมิธรรมกับคุณศุภชัยพูดเป็นคำเตือนนักการเมือง” รศ.สุขุม กล่าว