ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ล่าสุด “กลุ่มสามมิตร” หรือการรวมกลุ่มของอดีตนักการเมือง โดยการทาบทามของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และเครือข่าย ที่มีนายภิรมย์ พลวิเศษ เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ มีแนวร่วมรวมกันกว่า 100 ชีวิต และจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต ถือว่าเป็นผลตอบรับที่ดีเกินคาด
ภายในกลุ่มจึงมีการคุยกันว่าอาจจะตั้งพรรคใหม่ แทนที่การเข้าไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ เพื่อขยายเครือข่ายแนวหนุนรัฐบาลชุดปัจจุบัน
ทั้งนี้ แนวทางใหม่ของกลุ่มสามมิตรอาจจะตั้งพรรคใหม่พรรคเดียว เลือกเฟ้นผู้สมัครที่ดีที่สุดลงแต่ละพื้นที่ หรืออาจจะตั้งพรรคใหม่ 2-3 พรรค เพื่อให้ผู้สมัครทุกคนไปเก็บคะแนน เนื่องจากการเลือกตั้งแบบจุดสรรปันส่วนทุกคะแนนจะไม่สูญเปล่า
อย่างไรก็ตาม แนวทางทั้งหลายยังอยู่ที่การพูดคุย ต้องรอการตกผลึกจากนายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
ขณะที่นายชวน ชูจันทร์ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า รู้สึกเสียดาย หากกลุ่มสามมิตรไม่มาเข้าร่วม แต่ยอมรับได้ เพราะต่างคน ต่างมีทางเป็นของตัวเอง หากกระทำไปเพื่อชาติบ้านเมือง ตนพร้อมสนับสนุน
สำหรับพรรคพลังประชารัฐ มีรายงานว่า หัวหน้าพรรคยังเป็นนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการอุตสาหกรรม และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพานิชย์ เป็นเลขาธิการพรรค
ด้าน รศ.สุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง กล่าวว่า สาเหตุที่กลุ่มสามมิตรอาจจะแยกวงนั้น อาจจะเกิดจากความไม่ลงรอยกันทางความคิดระหว่างกลุ่มสามมิตร ซึ่งเป็นนักการเมือง กับกลุ่มของนายอุตตมและเครือข่ายที่เป็นข้าราชการและกลุ่มเทคโนแครต ซึ่งมีแนวทางการทำงานการเมืองที่ต่างกันสุดขั้ว โดยฝ่ายแรกเชื่อถือในการเจรจาต่อรอง อีกฝ่ายเชื่อมั่นในเรื่องผลของการทำงานหนักของรัฐบาลตลอด 4 ปีที่ผ่านมา น่าจะมัดใจประชาชนได้มากกว่า
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า ข่าวที่เกิดขึ้นอาจจะมาจากแนวร่วมกลุ่มสามมิตรบางคน เมื่อเห็นว่าสมาชิกเพิ่ม กลัวจะไม่มีพื้นที่ลง จึงจงใจปล่อยข่าวออกมา เพื่อให้เกิดการตั้งพรรคใหม่ แล้วกระจายคนไปลงตามพรรคต่างๆ เพิ่มโอกาสให้สมาชิกทุกคนได้ลงสมัคร ส.ส.