รายงานข่าวเปิดเผยว่า จากกรณีที่ นายภิรมย์ พลวิเศษ เลขาธิการกลุ่มสามมิตร ร่วมประชุมหารือกับสมาชิกเรื่องการดำเนินกิจกรรมในรอบสัปดาห์ พร้อมกล่าวถึงกระแสข่าวนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ จะนำสมาชิกพรรคชาติพัฒนาเข้าร่วมกับกลุ่มสามมิตรว่า มองว่านายสุวัจน์ พัฒนาเมืองโคราชจนเจริญ ถ้าจะมาแลกเปลี่ยนหรือมีส่วนร่วมกับกลุ่มสามมิตร ก็จะเป็นประโยชน์กับประชาชนชาวโคราชอีกครั้ง ถือเป็นนิมิตรหมายในทางที่ดี พร้อมต้อนรับด้วยความยินดียิ่ง และอาจตั้งชื่อกลุ่มว่า “สามมิตร-ชาติพัฒนา”
ด้านนายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา โฆษกพรรคชาติพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่นายภิรมย์ พลวิเศษ เลขากลุ่มสามมิตร ระบุถึงนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ และพรรคชาติพัฒนา เกี่ยวกับความร่วมมือ แลกเปลี่ยน และการมีส่วนร่วมกับกลุ่มสามมิตร เพื่อประโยชน์แก่เมืองโคราช ว่า ต้องขอขอบคุณกลุ่มสามมิตรที่ให้เกียรตินายสุวัจน์และพรรคชาติพัฒนาได้ทำงานร่วมกับพรรคการเมืองระดับชาติและท้องถิ่นมาอย่างต่อเนื่อง และว่า ในการพัฒนาเมืองโคราช นับแต่ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี ยึดหลักของความร่วมมือ มิตรภาพ และไม่มีความขัดแย้งต่อกัน เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้งมาตลอด พรรคชาติพัฒนาพร้อมที่จะมีความร่วมมือกับทุกฝ่าย เพื่อหารือแลกเปลี่ยนแนวทางการทำงานร่วมกัน เพื่อประโยชน์ของบ้านเมืองและเมืองโคราช การเมืองจะพรรคเดียวกันหรือต่างพรรคกัน แต่ต้องบ้านเมืองเดียวกัน
นายชลิตรัตน์ กล่าวต่อว่า พรรคชาติพัฒนายินดีสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือระหว่างพรรคการเมืองเพื่อร่วมกันทำงานและยุติความขัดแย้งต่างๆ ที่ผ่านมา เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าไปได้หลังการเลือกตั้งในปีหน้า เมื่อมีการปลดล็อกและอนุญาตให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้ปกติ ก็จะเป็นโอกาสดีที่พรรคการเมืองจะได้หารือกัน
“โคราชมีศักยภาพทางเศรษฐกิจที่จะเติบโตอีกมากจากพื้นฐานต่างๆ ที่มีอยู่เดิม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่รัฐบาลได้เริ่มต้นดำเนินการไว้ เช่น มอเตอร์เวย์ รถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง ฯลฯ จะสามารถต่อยอดความเจริญทางเศรษฐกิจ การลงทุน การท่องเที่ยว สู่ จ.นครราชสีมา ตราบใดที่โคราชมีความเป็นปึกแผ่นทางการเมือง เชื่อว่าหลังการเลือกตั้ง การพัฒนาด้านต่างๆ สู่เมืองโคราชจะเกิดขึ้นมากมาย และนำโคราชไปสู่ความสำเร็จและเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นไปอีก” นายชลิตรัตน์กล่าว