เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยกำลังเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุเขื่อนเซเปี่ยน-เซน้ำน้อยแตก ที่เมืองสนามชัย แขวงอัตตะปือ และแขวงจำปาสัก สาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งทำให้น้ำไหลเข้าท่วม 8 หมู่บ้าน ประชาชนสูญหายนับร้อย โดยทางการได้ใช้เฮลิคอปเตอร์และเรือช่วยอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ ซึ่งหลายคนยังคงนั่งรอความช่วยเหลืออยู่บนต้นไม้หรือบนหลังคาบ้านของตัวเอง เหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนกว่า 4,000 คน เสียหายทั้งหมด เนื่องจากน้ำท่วมสูงและไหลแรง ประกอบกับฝนยังคงตกต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีรายงานผู้สูญหายมากกว่า 100 คน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 20 รายแล้ว และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้ประสานให้รัฐบาลกลางของลาว รวมถึงชุมชนใกล้เคียงร่วมกันบริจาคสิ่งของจำเป็นสำหรับผู้ประสบภัย เช่น เสื้อผ้า อาหาร น้ำดื่ม และยารักษาโรค
บริษัท SK Engineering & Construction บริษัทเอกชนจากเกาหลีใต้ที่เข้ามาร่วมทุน เปิดเผยว่า บางส่วนของเขื่อนทรุดครั้งแรกตั้งแต่วันอาทิตย์ (22 ก.ค.) ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ประกาศเตือนประชาชนที่อยู่รอบเขื่อนให้เริ่มอพยพแล้ว ขณะเดียวกันได้ส่งทีมไปซ่อมแซมเขื่อน แต่ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างยากลำบาก จนช่วงเย็นวันที่ 23 ก.ค.61 มีรายงานยืนยันว่าเขื่อนแตกมากกว่าเดิม จนน้ำไหลเข้าท่วม 8 หมู่บ้านใกล้เคียง
ขณะเดียวกันธารน้ำใจจากภาคส่วนต่างๆ ได้หลั่งไหลไปในพื้นที่ประสบภัย อย่างไม่ขาดสาย มีรายงานว่า มูลนิธิศิษย์พระจี้กงอุบลราชธานีนำโดย นายวชิรพงส์ บุญกระจ่าง หัวหน้าหน่วยกู้ภัยมูลนิธิศิษย์พระจี้กงได้จัดทีม 13 คนเดินทางไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำพร้อมด้วยเรือยนต์กู้ภัย จำนวน 3 ลำ ชุดประดาน้ำ เครื่องปั่นไฟและอุปกรณ์ชูชีพ อุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมทั้งอาหารแห้งและน้ำดื่ม มุ่งหน้าเดินทางไปยังลาว เข้าช่วยเหลือพี่น้องชาว สปป.ลาว ที่ประสบภัยน้ำท่วม
เช่นเดียวกับทีมกู้ภัยสมาคมสรรเพชญ เพชรบูรณ์ จำนวน 10 นาย นำโดยนายชัชชัย พรหมศิริ หัวหน้าชุดกู้ภัยฯ นำอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยพร้อมเรือท้องแบน 1 ลำ ออกเดินทางจากจ.เพชรบูรณ์ ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยจะใช้เส้นทางผ่านทางด่านผ่านแดนถาวรช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี เข้าไปในพื้นที่ประสบภัย ทั้งนี้ทีมกู้ภัยจากเพชรบูรณ์จะไปร่วมกับทางทีมกู้ภัยในเครือข่ายและทีมกู้ภัยอื่นๆที่นัดพบกันที่ด่านช่องเม็ก โดยจะมีการประชุมวางแผนร่วมกันในช่วงเช้าวันที่ 25 กรกฎาคมก่อน เนื่องจากยังติดปัญหาการผ่านแดนเข้าไปในจุดเกิดเหตุภายใน สปป.ลาว ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการส่งสัญญาณจากทางการลาว อนุญาตให้ทีมกู้ภัยจากประเทศไทยเข้าไปช่วยเหลือหรือช่วยกู้ภัยในครั้งนี้
ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ เปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่แขวงอัตตะปือ ประเทศลาว ผ่านบัญชี 945-1-03-115-4 ชื่อบัญชี Royal Thai Embassy – Donation ธนาคารกรุงไทย สาขานครหลวงเวียงจันทน์ โดยสามารถบริจาคได้เป็นเงินสกุลบาท สอบถามรายละเอียดหรือติดต่อสถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ เบอร์ +66 2354 6195-6 ต่อ 111 และ +856 21 214 581-3 ต่อ 111
ขอบคุณภาพ Vientiane Times