หน้าแรก Article การเมืองร้อนแรง ประชาชนได้อะไร ?

การเมืองร้อนแรง ประชาชนได้อะไร ?

0
การเมืองร้อนแรง ประชาชนได้อะไร ?
Sharing

เดือดสุดขีด กับอุณหภูมิการเมืองตอนนี้ เพราะแม้การเลือกตั้งยังไม่รู้หมู่รู้จ่า แต่ฝ่ายหนุนฝ่ายต้าน “บิ๊กตู่” ออกมาซัดกันตรงๆ ไม่เกรงอกเกรงใจกันอีกต่อไป

นับหนึ่งจาก ครม.สัญจร ของ “บิ๊กตู่” พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ “บ๊กป้อม” พลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ที่แม้จะบอกว่าลงพื้นที่ฟังเสียงประชาชน หวังรวบรวมเป็นเอกสาร หาแนวทางยกระดับความเป็นอยู่ แต่มิวายที่ฝ่ายการเมืองจะเห็นต่าง ตั้งแง่โจมตี ไม่มีวันหยุดราชการ เก็บทุกเม็ด จัดเต็มทุกดอก

เริ่มตั้งแต่รุ่นเล็ก อย่าง ร.ท.หญิงสุณิสา ทิวากรดำรง สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า

“พฤติกรรมของรัฐบาลที่เลือกปฏิบัติกับกลุ่มคนคิดต่างนั้น เหมือนส่งสัญญาณว่าใครเลือกยืนข้างเดียวกับรัฐบาล ก็จะมีหน้ามีตา ส่วนใครที่ยืนอยู่ฝ่ายตรงข้าม ก็ต้องทำใจว่าอาจเสี่ยงติดคุกติดตาราง ถ้าขบวนการดูดนักการเมืองใช้หลักคิดแบบนี้ ก็ถือว่าอันตรายและจะเกิดการเมืองน้ำเน่าในอนาคต เพราะนักการเมืองไม่ได้เลือกสังกัดพรรคเพราะมีอุดมการณ์ตรงกัน แต่เลือกที่จะยืนข้างความไม่ถูกต้องเพื่อหนีตายหรือเพื่อเอาตัวรอด ถ้าบ้านเมืองได้คนประเภทนี้เข้าสู่อำนาจ ก็อย่าหวังว่าประเทศชาติจะพัฒนา เพราะเป้าหมายหลักของคนพวกนี้คือ หวังสืบทอดอำนาจเพื่อช่วยพวกเผด็จการปกปิดความผิดและป้องกันการถูกเช็คบิลจากการที่ทำให้ชาติบ้านเมืองเสียหายเท่านั้น ประชาชนจึงต้องระวังอย่าเลือกนักการเมืองสายพันธุ์เผด็จการมาเป็นผู้นำ”

เปรียบเหมือนมวยบู๊ ต่อยวืด ต่อยวาด แต่ได้ใจกองเชียร์สายฮาร์ดคอร์

ขณะที่รุ่นใหญ่ต่างพรรค ก็ออกมาผสมโรงเช่นกัน

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวว่า นายกฯออกไปสัญจรต่างจังหวัดเยอะก็ไม่ผิด และถูกที่คนเป็นนายกฯต้องไปได้ทุกที่ แต่ในอนาคตถ้านายกฯตัดสินใจลงการเมือง ตั้งพรรคเอง หรือมีคนสนับสนุน การกระทำในวันนี้อาจถูกครหาได้ว่า เอาเปรียบคนอื่นเขา ยิ่งถ้านายกฯลงเลือกตั้ง หรือยอมให้พรรคการเมืองเสนอชื่อเป็นนายกฯ จะถูกข้อครหา แต่ถ้าไม่ลงเล่นการเมือง ไม่ยินยอมให้มีการเสนอชื่อเป็นนายกฯ มันก็ไม่ผิดว่าไปหาเสียงล่วงหน้า แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ คิดอะไรในใจอยู่

กรีดไม่เนียน แต่ได้แผลแน่นอน

ส่วนรัฐบาลแก้เกม ด้วยการเทงบลงพื้นที่  โฆษกตะบันให้ข่าวรายนาที ทั้ง

เร่งรัดดำเนินการขยายอาคารสนามบินนานาชาติอุบลราชธานีให้เร็วขึ้นจากแผนที่กำหนดไว้เดิม  เร่งรัดศึกษาโครงการรถไฟทางคู่ วารินชำราบ – ช่องเม็ก จังหวัดอุบลราชธานี เร่งยกระดับด้านการผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (จีเอพี) และเกษตรอินทรีย์ ซึ่งมีพื้นที่รองรับแสนกว่าไร่ มีกลุ่มเกษตรกร 55 กลุ่ม 5 หมื่นกว่าคน ตั้งเป้าผลิตข้าวหอมมะลิจาก 179,000 กว่าไร่ ให้เป็น 1 ล้านไร่ ภายในปี 2564 เร่งรัดโครงการเพิ่มศักยภาพการให้บริการของโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ นี่แค่ “จิ๊บ” เปิดอ่านเอกสารฉบับเต็มมีแผนกว่า 100 หน้า

จะติดอยู่อย่างเดียวว่าทั้งหมดล้วนขีดเขียนบนเอกสาร ยังไม่นำไปสู่การปฏิบัติที่เห็นผล

ยังไม่รวมกลุ่มสามมิตร ที่เปิดเป้าดูดไปเรื่อย ขณะที่ฝ่ายต้าน โต้กลับเร็ว ฉะกลับหนักๆ ถ้าเป็นมวย ไม่ต่างกับสับศอกเลือดพุ่ง เพราะทันทีที่นายภิรมย์ พลวิเศษ แกนนำกลุ่มสามมิตร เอ่ยว่าจะคุยกับนายอดิศร เพียงเกษ แห่งพรรคเพื่อไทย ฝ่ายหลังกระโดดอัดกลับทันที

“ตนขอตัดขาด และขอให้ นายภิรมย์ พลวิเศษ แกนนำกลุ่ม อย่าเอ่ยชื่อถึงตนเลย คุณทำของคุณไปเถิด”

มวยบู๊ คนดูชอบ

การเมืองไทย ยังไม่ไปไหน

Ringsideการเมือง


Sharing

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่