ถูกจับตามองทุกครั้ง เวลามีการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารระดับนายพล ยิ่งปีนี้นี้บรรดาผบ.เหล่าทัพ เกษียณอายุราชการพร้อมกัน ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจ ให้กับบรรดาคนชอบติดตามข่าวสารของบ้านเมือง
สำหรับในปีนี้จะมีนายทหารระดับสูงเกษียณอายุราชการ อาทิเช่น “บิ๊กเข้” พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม, “บิ๊กต๊อก” พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผบ.ทหารสูงสุด, “บิ๊กนุ้ย” พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผบ.ทร., “บิ๊กจอม” พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผบ.ทอ.
มีรายงานว่า ในเบื้องต้นระบุว่า “บิ๊กณัฐ” พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ รองปลัดกระทรวงกลาโหม (ตท.20) ขยับขึ้นเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม, “บิ๊กกบ”พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการทหารสูงสุด (ตท.18) ขยับขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุด กองทัพเรือ “บิ๊กลือ” พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ รองผบ.ทร. (ตท.18) ขยับขึ้นเป็น ผบ.ทร., “บิ๊กต่าย”พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผู้ช่วย ผบ.ทอ. (ตท.18) ขยับขึ้นเป็น ผบ.ทอ.
ที่สำคัญมากกว่านั้น คือ การจัดทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายบุคคลในเครื่องแบบ เกิดในห้วงเวลาที่ประเทศไทย ได้รัฐบาลที่ไม่ได้จากการเลือกตั้ง เข้ามากุมทิศทางในการบริหารประเทศ และมีแนวโน้มว่า ภายหลังการเลือกตั้ง ยังจะได้ “ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ” นายกรัฐมนตรีและ หัวหน้าคสช. กลับเข้ามาเป็นผู้นำประเทศอีกครั้ง
อย่าลืมว่า สำหรับการเมืองไทย แม้หัวหน้ารัฐบาลจะได้เสียงสนับสนุน จากพรรคการเมืองต่างๆ แต่การได้ “กองทัพ ” เป็นฐานค้ำยันอำนาจ ยิ่งจะมีแต้มต่อทางการเมือง เพิ่มขึ้นอีก จึงไม่ใช้เรื่องแปลก เวลามีการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหาร ระดับนายพลในทุกยุคทุกสมัย จะได้รับความสนใจเกือบทุกครั้ง โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลง ที่เกิดขึ้นในกองบัญชาการกองทัพบก ( ทบ. )
เมื่อไล่ดูรายชื่อการแต่งตั้งในทบ. สื่อทุกสำนักรายงานตรงกันว่า หลังจาก “บิ๊กเจ๊ยบ ” พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. เกษียณอายุราชการ ชื่อของ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ “ ผช.ผบ.ทบ. ถือเป็นเต็งหนึ่ง ที่จะได้รับการแต่งตั้ง ให้เข้ามาคุมทบ. ด้วยเหตุผลที่ว่า นอกจะได้รับความไว้วางใจ จากบุคคลสำคัญแล้ว ยังได้รับความเชื่อมั่นว่า จะช่วยรักษาดุลอำนาจ ของฝ่ายกองทัพและการเมือง ได้เป็นอย่างดี
และอย่างที่ทราบกัน “บิ๊กแดง” ถือเป็นนายทหาร ที่ได้รับความไว้วางใจจาก “ พล.อ.ประยุทธ์ ” ได้รับมอบหมายให้ปฎิบัติภารกิจสำคัญหลายประการ และส่งสัญญาณอย่างชัดเจนมาตลอดว่า ยืนอยู่ฝ่ายตรงข้าม “ดร.ทักษิณ”
ยิ่งในห้วงเวลาที่ “ พล.อ.ประยุทธ์ ” มีบทบาทสำคัญ ในการบริหารประเทศ ได้แต่งตั้ง “ พล.อ.อภิรัชต์ ” ให้เข้ามารับตำแหน่งประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งถือว่าเป็นหน่วยงานที่มีความสำคัญ สร้างรายได้ให้กับภาครัฐ ในแต่ละปีเป็นจำนวนเงินหลายพันล้านบาท ต้องบอกกันตรงๆว่า ใครได้ดูแลหน่วยงาน ล้วนสะท้อนความเป็นที่ยอมรับ
ถ้าลองย้อนดูเส้นทาง “บิ๊กแดง” ในห้วงเวลารับรับราชการเป็นนายทหาร ซึ่งจับตามองตั้งแต่ดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 มีอำนาจ “คุมกองกำลังรักษาพระนคร” ซึ่งถือเป็นกำลังหลังในช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมือง
จากนั้นก็เดินเข้าสู่ไลน์ 5 เสือของทบ. ในตำแหน่ง ผช.ผบ.ทบ. แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในสายบูรพาพยัคฆ์ แต่การเติบโตในเส้นทาง “วงศ์เทวัญ ” ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำคัญ กับการเป็นเต็งหนึ่ง ในการคว้าเก้าอี้เบอร์หนึ่งของ ทบ.
และเมื่อหันมามอง รายชื่อในตำแหน่วสำคัญ ที่ปรากฏนอกเหนือจากตำแหน่ง ผบ.ทบ. ซึ่งเป็นเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 20 ( ตท. 20 ) ยังกระจายไปอยู่ในตำแหน่งหลักอื่นๆ ไล่เรียงตั้งแต่ พล.อ.ณัฐ ที่คาดว่า จะได้เป็นปลัดกระทรวงกลาโหม
พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เสนาธิการทหารบก (ตท.20) ที่คาดว่า จะได้ขึ้นเป็นรองผบ.ทบ. พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพภาคที่ 1 (ตท.20) ที่คาดว่า จะได้เป็น ผช.ผบ.ทบ. รวมไปถึง พล.ต.ฉลองชัย ชัยยะคำ รองแม่ทัพภาคที่ 3 (ตท.20) ที่จะขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 3 รวมทั้ง พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพน้อยที่ 4 (ตท.20) จะขยับขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ เป็นต้น
ขณะทีตำแหน่งที่มีความสำคัญ คือเก้าอี้แม่ทัพภาคต่างๆ ที่ต้องว่างลง ตามข่าวระบุว่า “บิ๊กบี้” พล.ท.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ”รองแม่ทัพภาคที่ 1 (ตท.22) ขยับขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ซึ่งถือว่า เป็นตำแหน่งสำคัญที่หลายฝ่ายจับตามอง และจะมีบทบาทสำคัญในอนาคต
สำคัญที่สุด ผู้มีอำนาจในรัฐบาล รับรู้เป็นอย่างดีว่า การจัดทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารปีนี้ ต้องทำให้ทุกฝ่ายยอมรับ ลดเงื่อนไขความวุ่นวายในอนาคต
“ อโศกมนตรี”