นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวในรายการ “ริงไซด์การเมือง” ถึงปัญหาหนี้กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่กำลังเป็นประเด็นถกเถียงในสังคมว่า บทบาทของ กยศ. คือการเปิดโอกาสทางการศึกษาให้กับประชาชน แต่เมื่อมีหนี้มากขึ้น ต้องหาทางจัดการ
ล่าสุด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้วิธีการจ้างทนายไปฟ้องร้องให้ชำระหนี้ เสียค่าทนาย 1 หมื่นบาท ต่อ 1 คดี ตอนนี้มีลูกหนี้กำลังจะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย 2 ล้านราย ในเบื้องต้น ต้องจ้างทนายเป็นเงิน 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งไม่รับประกันว่าจะตามหนี้กลับมาได้เท่าไร แต่สิ่งที่เสียไปแน่นอนคือ 1. งบประมาณ และ 2.โอกาสชีวิตของคน 2 ล้านคน เพราะเขามีคดีติดตัว ย่อมส่งผลกระทบกับการสมัครงาน และการทำงาน อุปสรรคทางคดี ยิ่งจำให้เขาหารายได้ยากขึ้น ตนสงสัยว่าเขาจะหาเงินมาจ่ายคืนรัฐได้อย่างไร แบบนี้ ยิ่งเป็นการบีบคนให้จนตรอก ผลักใสเขาไปอีกด้านของสังคมหรือไม่
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เปิดโอกาสให้พักหนี้ เบื้องต้นควรใช้ทางออกดังกล่าว แทนที่การบีบให้ลูกหนี้กลายเป็นจำเลย เพื่อให้โอกาสลูกหนี้มีโอกาสทำงานใช้หนี้ หลังจากนั้นก็ยกเลิกกองทุน กยศ. แล้วให้เรียนฟรีถึงปริญญาตรีแทน ส่วนลูกหนี้รายเก่าที่อยู่ระหว่างการพักชำระหนี้ กฎหมายไม่อนุญาตให้ยกหนี้ แต่รัฐสามารถเยียวยาได้
นอกจากนี้ ยังมีวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอีกทางคือ การปลดพันธะผู้ค้ำประกัน กยศ.ที่จะต้องรับภาระออกมา เพราะนับว่าเป็นกองทุนด้านการศึกษา หาปลดได้จะทำให้ตัดวงจรผู้ที่ต้องมาพลอยเดือดร้อนอีกนับแสนนับล้านคน
“ส่วนตัวเชื่อมั่นในการติดอาวุธให้กับชาติ โดยเฉพาะอาวุธทางปัญญาเป็นเรื่องจำเป็นที่สุด ในอนาคตคนไทย ต้องสู้กับนานาชาติ ในสมรภูมิการค้าระหว่างประเทศ ความฉลาดทันโลก คือสิ่งที่จะทำให้คนไทยได้เปรียบ ส่วนเรื่องบประมาณมาทำนโยบาย ผมไม่เคยเป็นห่วง เพราะถ้ารื้อการจัดซื้อจัดจ้างโครงการต่าง ๆ ของประเทศมาดูให้ดี ตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออก เชื่อว่ามีเงินเหลือมาซื้ออาวุธทางปัญญา หากได้ทำนโยบายนี้เป็นรูปธรรม ประชาชนจะมีการศึกษาและมีรายได้สูงขึ้น ย่อมจ่ายภาษีมากขึ้น ประเทศยิ่งพัฒนาไปไกล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าว