หน้าแรก news นักรัฐศาสตร์ เชื่อ นปช.ลดโทนเคลื่อนไหว ยัน “หม่อมเต่า” เป็นหัวหน้าพรรค รปช.เพียงในนาม

นักรัฐศาสตร์ เชื่อ นปช.ลดโทนเคลื่อนไหว ยัน “หม่อมเต่า” เป็นหัวหน้าพรรค รปช.เพียงในนาม

0
นักรัฐศาสตร์ เชื่อ นปช.ลดโทนเคลื่อนไหว ยัน “หม่อมเต่า” เป็นหัวหน้าพรรค รปช.เพียงในนาม
Sharing

นายโอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวผ่านรายการ “ ริงไซด์การเมือง” ถึงกรณีที่ “หม่อมเต่า” ม.ร.ว.จตุมงคล โสณกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่รับเป็นหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย หรือ รปช. ว่า ผู้นำพรรค รปช.ซึ่งในช่วงแรกมีการประเมินกันว่าน่าจะเป็นนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ แต่สุดท้ายมีการประกาศว่าเป็นหม่อมเต่า คงเป็นการแสดงออกที่ชัดเจนถึงการประกาศตัวอยู่ขั้วตรงข้ามนายทักษิณ ชินวัตร กับ พรรคเพื่อไทย เป็นการแสดงจุดยืนของ รปช. และเป็นการซื้อใจคนชั้นกลางให้เข้ามาสนับสนุนพรรค ด้วยการประกาศว่าเป็นกลางและการเชิดชูสถาบัน ด้วยภาพลักษณ์ของหม่อมเต่าเป็นชนชั้นนำระดับสูง ซึ่งเป็นไปตามพิมพ์เขียวของนายเอนกเคยนำเสนอไว้

นอกจากนี้ คงเป็นการชู “หม่อมเต่า” เพื่อสร้างข้อต่อรองในอนาคตหลังการเลือกตั้งมากกว่า  เพราะในสถานะของหม่อมเต่าแล้วจะเป็นหัวหน้าพรรคเป็นเพียงในนามเท่านั้น เพราะคนที่ขับเคลื่อนพรรค รปช.ตัวจริงคงจะหนีไม่พ้นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ก่อตั้งพรรค โดยมีนายเอนกเป็นมันสมองของพรรค ส่วนหม่อมเต่าก็เป็นเพียงเสมียนพรรค นอกจากนี้ หม่อมเต่าไม่มีประสบการณ์ทางการเมือง และสถานะของชนชั้นนำที่มีวิถีชีวิตทีแตกต่างจากชาวบ้านทั่วไป ต้องไม่ลืมว่าเวลาลงพื้นที่จะมีปัญหา เพราะการที่จะให้คนอย่างหม่อมเต่าไปเดินลุยหาเสียงและเดินตามท้องถนนหาเสียง เกรงว่าท่านจะกลายเป็นตัวตลกมากกว่า

นายโอฬาร ระบุว่า ในทางการเมือง เป็นที่แน่ชัดว่าฐานเสียงของพรรค รปช.นั้น เป็นฐานเดียวกันกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งอาจจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์เกิดความไม่สบายใจได้ โดยเฉพาะฐานเสียงส่วนของกรุงเทพฯนั้น อาจจะมีผลต่อการเลือกตั้งในอนาคตของพรรคประชาธิปัตย์แน่นอน เพราะด้วยฐานเสียงประชาธิปัตย์ซึ่งเสียงแผ่วไปพอสมควรอาจจะไปพลาดท่าให้กับรปช.ได้

นายโอฬาร ยังกล่าวถึงกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ภายหลังการพ้นโทษจากกรณีที่ศาลสั่งจำคุกเป็นเวลา 1 ปี จากคดีหมิ่นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  ว่า การออกมาให้สัมภาษณ์ของนายจตุพร พบว่ามีความสุขุมมากขึ้น การเดินที่มีแบบแผนมากขึ้น พูดง่ายๆ คือการเคลื่อนไหวหลังจากนี้ของ นปช.อาจไม่เข้มข้นเช่นเดิมด้วยเงื่อนไขหลายอย่าง อย่างไรก็ตาม การกลับมาสู่สังคมของนายจตุพรเชื่อว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มวลชนคนเสื้อแดงจะมีการตื่นตัว คึกคักมากขึ้น เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่านายจตุพรและนายณัฐวุฒิมีความสำคัญกับการขับเคลื่อนของ นปช.มากกว่าแกนนำคนอื่น


Sharing

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่