นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยโพสต์เฟซบุ๊ก “อนุทิน ชาญวีรกูล” ถึงแนวคิดการพักชำระหนี้ กยศ. ซึ่งกำลังเป็นที่ถกเถียงในสังคม ว่า
ผมสนับสนุนให้มีการชำระหนี้ กยศ. ในส่วนของลูกหนี้ ที่มีงานทำ และมีรายได้เพียงพอ สามารถชำระได้โดย ไม่กระทบต่อการดำรงชีพ
ส่วนลูกหนี้ ที่ยังไม่มีงานทำ หรือมีรายได้น้อย ไม่เพียงพอต่อการยังชีพ ผมเห็นว่ารัฐควรจะพักหนี้ให้เขา อย่างน้อย 5 ปี พักทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เมื่อเขามีงานทำ และมีความสามารถชำระหนี้ได้ ต้องชำระหนี้ตามสัญญากับ กยศ.
นอกจากนี้ ผู้กู้ที่ไม่สามารถทำงานได้เนื่องจากป่วย พิการ ทุพพลภาพ รัฐควรจะยกหนี้ ให้ ไม่ต้องชำระหนี้อีก ซึ่งมีจำนวนไม่มากนัก ทั้งจำนวนคน และจำนวนเงิน แต่เป็นความทุกข์ อย่างมาก ของผู้กู้ ผู้ค้ำประกัน และ ครอบครัว
ในส่วนของผู้ค้ำประกัน ผมขอยืนยันความเห็น และข้อเสนอของผมว่า หนี้ กยศ. ไม่ควรต้องมีผู้ค้ำประกัน เพราะผู้กู้ กู้ไปเรียนหนังสือตามนโยบายของรัฐบาล ที่ส่งเสริมให้ประชาชนศึกษาถึงระดับปริญญาตรี ผู้กู้ไม่ได้กู้ไปทำธุรกิจ หรือใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น การกู้ยืมเพื่อการศึกษา เป็นการกู้ยืมกรณีพิเศษ ซึ่งจริงๆ แล้ว รัฐควรจัดให้แก่ประชาชน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพราะเป็นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ ไม่ต้องให้มากู้ยืมด้วยซ้ำไป
การยกเลิกภาระค้ำประกันของผู้กู้เดิม และ การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน สำหรับผู้กู้รายใหม่ เป็นสิ่งที่รัฐบาล และกยศ. ควรพิจารณาทันที
เพราะหนี้กยศ. กำลังเป็นระเบิดเวลาของอนาคตการศึกษาไทย และ เยาวชนส่วนหนึ่งของชาติ ที่เป็นอนาคตของประเทศไทย
ทั้งนี้ ในโพสต์ดังกล่าวมีการแนบ “ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการหักเงินได้พึงประเมินเพื่อชำระเงินกู้ยืมกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาตามพระราชบัญญัติกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2560” แนบมาด้วย โดยมีผู้เข้าไปแสดงความเห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ เฟซบุ๊ก “พงศกร รอดชมภู” ของ พล.ท.พงศกร รอดชมภู อดีตรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อกรณีนี้ ระบุว่า “เห็นด้วยครับ ระบบ กยศ. ควรทบทวนใหม่ เป้าหมายเราต้องการให้คนเรียนจบและสร้างชาติ ไม่ใช่ให้กลายเป็นอาชญากรกันทั้งประเทศครับ”