พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ อาทิ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตรวจเยี่ยมติดตามการบริหารจัดการน้ำที่มาจากเขื่อนแก่งกระจานและสถานการณ์น้ำในภาพรวมของจังหวัดเพชรบุรี ณ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี (เขื่อนเพชร) อำเภอท่ายาง
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน บรรยายสรุปว่า การบริหารจัดการน้ำเขื่อนเพชร คาดการณ์ว่าจะมีน้ำไหลรวมที่หน้าเขื่อนเพชรสูงสุดปริมาณ 230 – 250 ลบ.ม. ต่อวินาที โดยจะทำการหน่วงน้ำหน้าเขื่อนและตัดระบบชลประทานฝั่งซ้าย – ฝั่งขวา รวม 55 ลบ.ม. ต่อวินาที และผันน้ำเข้าคลองระบายน้ำ D9 พร้อมทั้งระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเพชร จะทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านอำเภอท่ายาง อำเภอบ้านลาดโดยไม่มีผลกระทบ และเมื่อไหลผ่านเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรีจะทำให้มีน้ำเอ่อท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งและพื้นที่ชุมชน สูงเฉลี่ยประมาณ 30 – 50 เซนติเมตร ระยะเวลาท่วมขังไม่เกิน 10 วัน ทั้งนี้ จะมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำในจุดเสี่ยงที่อาจจะมีน้ำเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ชุมชน พร้อมกับติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำในจุดที่มีการระบายน้ำได้ช้า จำนวน 38 เครื่อง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ปริมาณน้ำไหลเข้าสู่เขื่อนแก่งกระจานน้อยลงอย่างต่อเนื่อง จึงถือเป็นสัญญาณที่ดี
ขณะที่นายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายว่า ขอให้ส่วนราชการ หน่วยงานในท้องถิ่นทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงถึงสถานการณ์น้ำ พร้อมแจ้งเตือนเพื่อให้มีความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ ต้องเตรียมมาตรการให้พร้อมไม่ว่าจะเป็นแผนการอพยพ และการบริหารจัดการน้ำ พร้อมขอความร่วมมือสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าว ขอให้นำเสนอสถานการณ์น้ำตามข้อเท็จจริง อย่านำเสนอข่าวเกินความเป็นจริงเพราะจะทำให้ประชาชนเกิดความวิตกกังวล พร้อมกล่าวยืนยันว่ารัฐบาลและส่วนราชการมีความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ รวมถึงแผนการอพยพประชาชนและสัตว์เลี้ยงออกจากพื้นที่เสี่ยง ในส่วนของรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาในระยะยาว สำหรับโครงการขนาดเล็กขอให้คำนึงถึงประโยชน์และความคุ้มค่า รวมถึงทันต่อการใช้งานเป็นหลัก ในการดำเนินการ อย่าใช้งบประมาณในการดำเนินการสูงเกินไป แต่เบื้องต้นขอให้ช่วยกันแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน จากนั้น นายกฯพร้อมคณะได้เดินไปบริเวณสันเขื่อนเพชรเพื่อดูการระบายน้ำ ก่อนเดินทางต่อไปยังประตูระบายน้ำคลอง D9 ตำบลปึกเตียน อำเภอท่ายาง เพื่อตรวจเยี่ยมการขยายคลองชลประทาน
ก่อนหน้านี้ พลเอก ประยุทธ์ กล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมในรูปแบบการสร้างอาชีพเสริม เช่น ทำประมงพื้นบ้านว่า “วันนี้มีปลาเยอะแยะ และวันนี้ก็ได้ขอห้องเย็นมาอีกเพื่อจะเก็บปลาจำนวนมาก ซึ่งจะเป็นอาชีพเสริมขึ้นมาช่วยตอนที่ทำนาไม่ได้ รัฐบาลได้คิดในทุกมิติ เพราะเป็นเรื่องของภัยธรรมชาติที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้”