สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ รานงานว่า นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศ ปริมาณฝนสะสม สถานการณ์น้ำท่า และปัจจัยเสี่ยงเชิงพื้นที่ ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์สภาพอากาศในช่วงวันที่ 10 – 14 สิงหาคม พบว่า ร่องมรสุม พาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรง ส่งผลให้ทุกภาคมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักในหลายพื้นที่ โดยปริมาณฝนสะสมที่เพิ่มขึ้น อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่ม บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่ริมแม่น้ำ และพื้นที่ลาดเชิงเขา รวมถึงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นลมสูง 2 – 3 เมตร ในส่วนของสถานการณ์น้ำในเขื่อนแก่งกระจาน เขื่อนเพชร เขื่อนวชิราลงกรณ และเขื่อนน้ำอูน มีปริมาณน้ำกักเก็บมาก การระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อน ส่งผลให้เกิดระดับน้ำในลำน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอาจเกิดภาวะน้ำล้นตลิ่งท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำริมลำน้ำได้
ทั้งนี้ มีจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังอุทกภัย 57 จังหวัด ส่วนจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังคลื่นลมแรง 10 จังหวัด และจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังดินโคลนถล่ม 6 จังหวัด พร้อมประสานฝจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัย โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน ระดับน้ำและแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิดต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดจนแจ้งเตือนประชาชนเตรียมพร้อมรับมือและระมัดระวังอันตรายจากสถานการณ์ภัย โดยติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด
สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง