จากกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เสนอแนวทางการแก้ปัญหาหนี้ กยศ. เป็น 3 แนวทางคือ 1. ให้ลูกหนี้ที่มีงาน มีศักยภาพ จ่ายหนี้ ตามความสามารถ 2. พักหนี้สูงสูด 5 ปี แก่ลูกหนี้ ที่ขาดความสามารถในการชำระตามเวลาที่กำหนด และ 3. ปลดหนี้แก่ผู้พิการทุพพลภาพ 4. ปลดภาระผู้ค้ำ ตามมาด้วยความสงสัยว่าจะทำให้รัฐขาดทุน จนไม่มีเงินอุดหนุนให้กับนักเรียนรุ่นต่อไป
ล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล กล่าวว่า ตอบคำถามเรื่องการขาดทุน ตรงนี้ รัฐต้องทำใจอยู่แล้วว่าการให้บริการสาธารณะ ล้วนไม่มีกำไร เราทำเพื่อพี่น้องประชาชน ทำเพื่อพัฒนาความรู้ ความสามารถให้ประชาชน ให้เขากลับมาเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาชาติ อาจไม่ได้กำไรกลับมาเป็นตัวเงิน แต่เราจะได้กำไรทางอื่นกลับสู่สังคม และประเทศ
ทั้งนี้ หลายคนเป็นห่วงว่าถ้าพักหนี้แล้ว จะไม่มีเงินไปอุดหนุนเด็กรุ่นหลัง ตนอยากให้อ่านแนวคิดของตนอย่างละเอียดก่อน เนื่องจาก กระบวนการทั้งหมด เริ่มต้นจากการจัดระเบียบผู้กู้ ว่าใครมีศักยภาพในการชำระ ใครจำเป็นต้องพักชำระ ใครต้องปลดหนี้ ตนไม่ได้เสนอให้ทุกคนได้พักหนี้ทั้งหมด คนมีก็ต้องจ่าย คนไม่มี ก็ยังไม่ต้องจ่าย ให้ไปหาการ หางานทำ แล้วค่อยมาจ่าย ดีกว่าเอาหมายศาลไปแปะ ให้กลายเป็นคดีความ หางานทำยากขึ้นไปอีก
ที่สำคัญ รัฐไม่ต้องใช้เงิน เพราะเงินได้จ่ายออกไปแล้ว กลับกัน แนวทางที่นำเสนอ เป็นการจัดระเบียบ นำผู้กู้กลับสู่ระบบ สร้างความมั่นใจว่าจะมีเงินไหลกลับเข้ามาในอนาคต ในส่วนการปลดภาระผู้ค้ำ ย่อมไม่กระทบกับมูลหนี้ที่มีอยู่ แต่เป็นการทำในสิ่งที่สมควรทำ เพราะเราคงไม่อยากเห็นครูอาจารย์ ที่ต้องการสร้างอนาคตให้กับชาติ ต้องมาเป็นหนี้สินล้มละลาย
“แนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ กยศ. ของผม นอกจากจะได้เงินกลับสู่ระบบ ยังช่วยพาคนกลับสู่สังคมด้วย เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ควรจะต้องทำให้เร็วที่สุด ผมไม่หวงไอเดียของผม ใครอยากใช้ เชิญตามสบาย เพราะยิ่งปล่อยเวลาให้เนิ่นนาน จะมีผู้กู้อีกจำนวนมาก กลายมาเป็นคนติดคดี หางานทำลำบาก สุดท้าย อาจจะต้องไปทำมาหากินในอีกด้านของสังคม ปัญหาหนี้ กยศ. ถ้ายังไล่เบี้ยกันแบบนี้ นอกจากเงินจะไม่ได้แล้ว สังคมไทย อาจจะได้โจรเพิ่มขึ้น”