หน้าแรก news มองไกล “อนุทิน” เผย ระดมทีมยุทธศาสตร์ นักวิชาการ หาแนวทางยกเครื่องการศึกษาไทย

มองไกล “อนุทิน” เผย ระดมทีมยุทธศาสตร์ นักวิชาการ หาแนวทางยกเครื่องการศึกษาไทย

0
มองไกล “อนุทิน” เผย ระดมทีมยุทธศาสตร์ นักวิชาการ หาแนวทางยกเครื่องการศึกษาไทย
Sharing

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการเสนอแนวทางพักชำระหนี้กองทุนให้การกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) และปลดภาระผู้ค้ำ ว่า ปัญหาหนี้ กยศ.กำลังจะทำลายเศรษฐกิจและสังคมไทย รวมถึงอนาคตของเยาวชนไทย ซึ่งขณะนี้พรรคภูมิใจไทย อยู่ระหว่างการระดมสมองจากคณะกรรมการยุทธศาสตร์และนักวิชาการของพรรค เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหา และพัฒนาการศึกษาไทยทั้งระบบ ซึ่งการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น คือ แนวทางการพักชำระหนี้ 5 ปี เพื่อให้เด็กที่จบมามีเวลาหางานทำ และเก็บรวบรวมเงิน เพื่อนำมาชำระหนี้ได้โดยไม่กระทบต่อการดำรงชีพ

นอกจากนี้ ยังกำหนดให้ลูกหนี้เสียภาษีให้กับรัฐในอัตราที่หักไว้เป็นภาษีส่วนหนึ่ง และการผ่อนชำระหนี้เงินกู้อีกส่วนหนึ่ง ยืนยันว่า การแก้หนี้ กยศ.จะต้องไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ และไม่ทำให้ทั้งรัฐและลูกหนี้เสียเปรียบ เราจะนำข้อมูลทุกด้านมาพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะอยากเห็นสังคมไทยดีขึ้น เยาวชนไม่ต้องแบกรับภาระหนี้สิน จนอาจมีคดีความติดตัว และอาจมีสถานะไม่ต่างไปจากบุคคลล้มละลาย ซึ่งจะส่งผลกระทบกับการสมัครงาน และการทำงานจากอุปสรรคทางคดี ซึ่งจะยิ่งทำให้คนเหล่านี้หารายได้ยากขึ้น กลายเป็นปัญหาที่แก้ไม่จบ และอาจผลักไสเขาให้ไปอยู่ในอีกด้านหนึ่งของสังคม

นายอนุทิน ยังยืนยันถึงแนวทางการปลดภาระผู้ค้ำประกัน เนื่องจาก กยศ.เป็นโครงการลงทุนเพื่ออนาคตของชาติ ที่ผู้กู้ กู้ไปเรียนหนังสือตามนโยบายของรัฐบาล ไม่ใช่การลงทุนทางธุรกิจ ที่จะต้องมีผู้คำประกันจนทำให้เป็นปัญหาต่อบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง เนื่องจากปัจจุบันเจ้าหนี้มักจะไปไล่บี้กับผู้ค้ำประกันมากกว่าตามเก็บจากลูกหนี้ ซึ่งถือว่าไม่ถูกต้อง

“ผมไม่อยากให้คนที่ออกวิจารณ์ วิจารณ์อย่างเดียวโดยไม่มองถึงเจตนาของคนที่ออกมาเสนอทางออก เพราะต้องการเห็นการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง เห็นการพัฒนาประเทศที่ดีขึ้น วันนี้พรรคภูมิใจไทย ไม่ได้เอาเวลาไปคิดเรื่องประเด็นการเมือง เพราะยังไม่มีการปลดล็อก แต่เอาเวลาทั้งหมดมาคิดวิธีการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาประเทศชาติ” นายอนุทิน กล่าว

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวต่อว่า ในอนาคตรัฐควรขยายให้มีการมีเรียนฟรีถึงระดับปริญญาตรี จากเดิมเรียนฟรีถึงระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 เพราะตนเชื่อมั่นว่า การติดอาวุธให้กับชาติ โดยเฉพาะอาวุธทางปัญญาเป็นเรื่องจำเป็นที่สุด “ผมอยากให้รัฐบาลจัดลำดับความสำคัญของการใช้จ่ายเงินงบประมาณ บางโครงการที่ยังไม่จำเป็น สามารถชะลอออกไปได้ก็ควรทำ เพื่อนำเงินมาลงทุนเรื่องการศึกษาก่อน วันนี้เสียเงินจำนวนมหาศาลไปกับโครงการที่ไม่มีประโยชน์ เช่น โครงการบำบัดน้ำเสียคลองด่าน แล้วทำไมวันนี้เราจะจ่ายเงินเพื่อทำให้คนมีความรู้ไม่ได้” นายอนุทิน กล่าว

ขอบคุณเนื้อหา : ไทยรัฐ


Sharing

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่