นายสุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหง เปิดเผยในรายการ “ริงไซด์การเมือง” ถึงการประกาศไม่ลงเลือกตั้งของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ว่า หากพลเอกประยุทธ์จะเป็นนายกฯต่อ อันที่จริงไม่ต้องลงสมัครรับเลือกตั้งก็ได้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญเปิดทางไว้ ดังนั้น พลเอกประยุทธ์ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็น ส.ส. ก็สามารถเป็นนายกฯคนใน เพราะอาจจะมาจากการมีชื่อในบัญชีของพรรคการเมือง หรืออาจเป็นนายกฯคนนอกจาก ส.ว.สรรหา ดังนั้น การประกาศในเดือนกันยายนของพลเอกประยุทธ์ อาจไม่มีอะไร หรืออาจจะประกาศไม่ลงสนามการเมืองก็ได้ แต่หากพรรคการเมืองตกลงกันไม่ได้ หัวหน้า คสช.อาจเสนอตัวเป็นตัวเลือก หรือหากประกาศลงการเมือง ปัญหาก็ยังไม่จบ เพราะจะถูกถามว่าจะไปอยู่พรรคการเมืองใด
ส่วนกรณีการการเคลื่อนไหวของกลุ่มสามมิตร ที่มีการรับรองออกมาจาก พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ออกมาบอกว่ากลุ่มสามมิตรเคลื่อนไหวทางการเมืองได้เพราะไม่ได้เป็นพรรคการเมืองจึงไม่ขัดคำสั่งคสช. นั้น หากกลุ่มสามมิตรทำได้ ทุกกลุ่มการเมืองก็น่าจะเคลื่อนไหวได้เช่นกัน แม้กระทั่งพรรคการเมืองควรมีอิสระในการเคลื่อนไหวได้แล้ว กรณีที่รองนายกรัฐมนตรีออกมาพูด จึงทำให้สถานการณ์แย่ไปแกว่าเดิม
นายสุขุมกล่าวต่อว่า กรณีเปิดไฟเขียวให้กลุ่มสามมิตรดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้นั้น เป็นไปได้ว่า คสช.หวังประโยชน์จากกลุ่มสามมิตร ดังนั้น ทั้งหมดทั้งมวลก็คือ ใครเป็นพวกก็เคลื่อนไหวได้ แต่หากทำกันขนาดนี้แล้วยังไม่สามารถที่จะชนะการเลือกตั้งได้ ก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้จากการตัดสินใจของประชาชน ขณะเดียวกัน หากพลเอกประยุทธ์และคสช.เชื่อมั่นในการสำรวจของหน่วยงานต่างๆว่าหากเลือกตั้งเมื่อไหร่พลเอกประยุทธ์หรือพรรคการเมืองที่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์จะชนะการเลือกตั้ง ก็ต้องรีบลงเลือกตั้ง ให้ประชาชนเลือก อย่าได้รอช้า
ส่วนการเคลื่อนไหวของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรครวมพลังประชาชาติไทย หรือ รปช. ที่ออกมาเดิมพันคดีโรงพักร้างว่า ถ้าผิดก็พร้อมสละชีพตัวเอง เป็นสิ่งที่น่าสนใจว่า ทำไม ป.ป.ช.ถึงปล่อยให้คดีดังกล่าวถูกดองมานานขนาดนี้ หรือว่าที่ต้องมาทำเรื่องนี้เพราะสุดยื้อแล้ว เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นมันเกิดมานาน ผิดกับคดีอื่นที่เกิดขึ้นภายหลัง แต่มีการดำเนินการที่รวดเร็ว ซึ่งการดำเนินการเรื่องดังกล่าวกระทบกับพรรครวมพลังประชาชาติไทยโดยตรง เพราะนายสุเทพคือพรรครวมพลังประชาชาติไทย รวมถึงกระทบไปยังพรรคประชาธิปัตย์ด้วย แต่ไม่น่าจะเป็นการเตะตัดขานายสุเทพจากผู้มีอำนาจแต่อย่างใด
“น่าจับตาว่าประเด็นโรงพักร้าง คงถูกพูดโจมตีในเวทีหาเสียงในช่วงเลือกตั้ง เลยสงสัยว่าทำไม ป.ป.ช.ถึงไม่รีบออกมาเคลียให้จบก่อนเลือกตั้ง เพราะคุณสุเทพจะได้รีบพ้นข้อครหา เพราะแน่นอนว่าหาดยืดคดีออกไปหลังเลือกตั้ง ช่วงรณรงค์เลือกตั้งนี่แหละ คุณสุเทพเป๋แน่”
นายสุขุม กล่าวด้วยว่า หากพรรคเพื่อไทยจะสามารถที่จะชนะการเลือกตั้งแบบหิมะถล่มตามที่อดีตนายกฯประกาศนั้น ต้องได้คะแนนเสียงถึง 250 เสียง เชื่อว่าแม้ไม่ได้เป็นรัฐบาลก็ทำให้รัฐบาลทำงานลำบากเช่นกัน แต่หากพรรคเพื่อไทยได้ 250 เสียงเมื่อไหร่ พรรคขนาดกลางจะเข้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาล ขณะเดียวกัน หากพรรคเพื่อไทยได้ไม่ถึง 250 เสียง จะเป็นฝ่ายค้านแน่นอน