นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นประธานเปิดอบรมหลักสูตรสืบสวนและไต่สวน สำหรับผู้บริหาร รุ่นที่ 3 จำนวน 77 คน โดยประธานกกต. กล่าวในการอบรมว่า การอบรมนี้เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่ผู้บริหารของสำนักงานกกต. ให้มีความเข้าใจในเทคนิค และวิธีการตามกฎหมายเลือกตั้ง และพรรคการเมือง รวมทั้งกฎหมายพรรคการเมือง
โดยเน้นในบริบทของการป้องกันปราบปรามการทุจริตการเลือกตั้ง และกระบวนการไต่สวน การข่าว การคุ้มครองพยาน ตลอดจนการดำเนินการเกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้ง และอื่นๆ โดยผู้ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรนี้ สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ และปฏิบัติงานในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะทำให้การดำเนินการจัดการเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม เป็นที่เชื่อมั่นต่อสังคม และมีประสิทธิภาพสมดังเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า กกต.จะเดินหน้าแบ่งเขตการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่งคลายล็อคให้กับพรรคการเมือง สามารถดำเนินกิจกรรมได้ โดยจะเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และพรรคการเมือง ภายใน 50 – 60 วัน ก่อนออกประกาศเรื่องการแบ่งเขตการเลือกตั้ง เพื่อให้สาธารณชนรับทราบ
เลขาฯ กกต.กล่าวว่า ขณะที่ พรรคการเมืองที่กำลังอยู่ระหว่างการจดจัดตั้งพรรค ก็ต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จอย่างสมบูรณ์โดยเร็ว มิฉะนั้นอาจมีปัญหาเรื่องส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งได้ ซึ่งขณะนี้มีพรรคการเมืองอีกประมาณ 10 พรรค ที่อยู่ระหว่างขอจัดตั้งพรรคการเมือง แต่ยังไม่มีพรรคพลังประชารัฐ อย่างไรก็ตาม พรรคพลังประชารัฐได้ยื่นขอประชุมพรรค ในวันที่15 กันยายน นี้ ส่วนผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง จะต้องสมัครเป็นสมาชิกพรรคให้แล้วเสร็จ ภายใน90 วัน ก่อนวันเลือกตั้ง ดังนั้น หากวันเลือกตั้งจะจัดขึ้นวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 จะต้องสังกัดสมาชิกพรรคภายในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2561
ขณะที่ความคืบหน้าในการลงนามแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้ง ทั้ง 616 คนนั้น พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า กำลังอยู่ระหว่างเปิดให้ผู้ร้องคัดค้านได้ชี้แจงข้อร้องเรียน ซึ่งมี 23 คน ที่อยู่ระหว่างถูกตรวจสอบ ทั้งเรื่องคุณสมบัติ ความเป็นกลางทางการเมือง การสังกัดพรรค โดยจะเปิดโอกาสให้ชี้แจง และคาดว่าจะตรวจสอบแล้วเสร็จ และให้ กกต.จะลงนามแต่งตั้งได้ ในช่วงต้นกันยายนนี้ ก่อนจะเข้ารับการอบรมอย่างเข้มข้น เพื่อให้ทำหน้าที่ตามกฎหมายอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมและเป็นที่ยอมรับ เพราะมีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญใหม่