ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2561 มีมติอนุมัติให้การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในส่วนที่รัฐบาลเพิ่มเติมให้ภายหลัง หรือมาตรการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐระยะที่ 2 ผ่านทางการเติมเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การอนุมัติครั้งนี้สำหรับผู้ที่แสดงความประสงค์จะพัฒนาตนเองในแบบประเมินและเมนูการพัฒนารายบุคคล โดยการปรับเปลี่ยนการเพิ่มวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นรายเดือน ที่รายได้ไม่เกิน 30,000 บาท วงเงิน 200 บาท/เดือน/คน และผู้มีบัตรฯ ที่มีรายได้เกิน 30,000 บาท เพิ่มวงเงิน 100 บาท/เดือน/คน ระยะเวลาโครงการตั้งแต่เดือนก.ย.-ธ.ค. 2561 โดยวงเงิน 200 บาท และ 100 บาท ที่ได้จะสามารถถอนเป็นเงินสดได้จากตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย หากใช้ไม่หมดสามารถสะสมไปเรื่อยๆ แล้วกดทีเดียวก็ได้
ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิที่เริ่มใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐในการชำระค่าสินค้าหรือบริการจากเงินที่เติมลงบัตรเป็นครั้งแรก จะต้องเปลี่ยนรหัส 6 หลักเดิม (เลขประจำตัวประชาชน 6 หลักสุดท้ายบนหน้าบัตร) จากเครื่อง ATM หรือ เครื่อง ADM หรือ สาขาของ บมจ. ธนาคารกรุงไทย ก่อนจึงจะสามารถใช้ได้ สำหรับผู้ที่ได้ใช้รหัส 6 หลักในการชำระค่าสินค้าหรือบริการ ผ่าน Mobile Application “ถุงเงินประชารัฐ” แล้ว สามารถใช้รหัสเดียวกันนี้ได้ทันที โดยไม่ต้องเปลี่ยนรหัสอีก ตลอดจนใช้ถอนเงินในส่วนนี้ได้ และควรเก็บรักษารหัสไว้อย่างดีเพื่อความปลอดภัย