หน้าแรก news “ญาติวีรชน” จี้ “อภิสิทธิ์” แสดงจุดยืนไม่ร่วมตั้งรัฐบาล คสช. ด้านเจ้าตัวแทงกั๊ก! ปัดตอบ ชี้ ต้องการนำบ้านเมืองออกจากวิกฤต

“ญาติวีรชน” จี้ “อภิสิทธิ์” แสดงจุดยืนไม่ร่วมตั้งรัฐบาล คสช. ด้านเจ้าตัวแทงกั๊ก! ปัดตอบ ชี้ ต้องการนำบ้านเมืองออกจากวิกฤต

0
“ญาติวีรชน” จี้ “อภิสิทธิ์” แสดงจุดยืนไม่ร่วมตั้งรัฐบาล คสช. ด้านเจ้าตัวแทงกั๊ก! ปัดตอบ ชี้ ต้องการนำบ้านเมืองออกจากวิกฤต
Sharing

นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 เข้ายื่นหนังสือต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เรียกร้องให้พรรคปรับบทบาทพรรคและผู้นำเพื่อสืบสานเจตนารมณ์พฤษภา 35 โดยขอให้สร้างความสามัคคีปรองดองทำตามเสียงประชาชนแก้วิกฤตออกจากวังวนของเผด็จการทหาร ไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคร่วมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อันเป็นการสืบทอดอำนาจเผด็จการที่ทำลายประชาธิปไตย รวมทั้งขอให้สนับสนุนและผลักดันการก่อสร้างอนุสรณ์สถานพฤษภา 2535 ให้สำเร็จต่อไป

ด้านนายอภิสิทธิ์กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า ตนพูดชัดเจนว่าต้องการนำบ้านเมืองออกจากวิกฤตที่สืบทอดมาเป็นเวลาสิบปี ซึ่งถือเป็นภาระหน้าที่สำคัญของพรรคการเมือง โดยประชาธิปัตย์พร้อมที่จะเดินหน้าไปสู่เป้าหมายนี้ และได้แสดงจุดยืนแล้วว่าต้องเริ่มจากการเลือกตั้งที่สุจริต เที่ยงธรรมหรือเสรีและเป็นธรรม หมายความว่าทุกฝ่ายต้องช่วยกันทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ได้มาตรฐานความเป็นประชาธิปไตย ผู้มีอำนาจต้องไม่ใช้อำนาจในทางไม่ชอบหรือเอารัดเอาเปรียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งในการทำให้การเลือกตั้งสุจริต แก้ปัญหาการซื้อเสียง การปล่อยข่าวเท็จใส่ร้าย แม้จะยังไม่มีการเลือกตั้ง และต้องเชิญชวนให้ประชาชนมีส่วนร่วมให้มากและช่วยกันตรวจสอบ

นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงการแก้กฎหมายการทำไพรมารี โดยอาจกำหนดให้ใช้รูปแบบคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส. ว่ารูปแบบการแก้ไขดังกล่าวไม่สามารถเรียกว่าเป็นการทำไพรมารีโหวตได้ และ คสช. ควรพูดความจริงกับประชาชน เนื่องจากการหยั่งเสียงแบบไพรมารีไม่ใช่ลักษณะเดียวกับการที่คณะกรรมการบริหารพรรคหรือคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครไปรับฟังความเห็น เพราะบทบัญญัติแบบนี้รัฐธรรมนูญปี 50 ก็มี ก็ไม่ได้เรียกว่าไพรมารีโหวตหรือไพรมารีโหวตฉบับย่อ ดังนั้น การจะทำอะไรควรให้ความจริงกับประชาชน ถ้าไม่อยากทำ ไม่พร้อมที่จะทำ คิดว่าไม่ควรทำแล้วก็พูดตรงๆ จะทำให้ประชาชนไม่สับสน

นายอภิสิทธิ์กล่าวด้วยว่า การใช้มาตรา 44 มาแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญบ่อยครั้ง สะท้อนให้เห็นว่าหลักไม่แน่น เพราะเขียนเอง ลบเอง และหลายครั้งที่ใช้มาตรา 44 มาแก้ไข ก็มีปัญหาว่าหลายบทบัญญัติขัดกันเอง จึงอยากให้ดูตามหลักความเป็นจริง อย่าเอาเรื่องการเมือง ความได้เปรียบเสียเปรียบเข้ามา เพราะการแปรสภาพจากกรรมการมาเป็นผู้เล่นก็ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นระดับหนึ่งอยู่แล้ว การมีความไม่แน่นอนในเรื่องของกติกาเป็นอีกปัญหาหนึ่ง ซึ่งการเลือกตั้งเสรี เป็นธรรมเท่านั้นที่จะเป็นหัวใจที่จะเรียกคืนความเชื่อมั่นกลับมาได้ อย่างไรก็ตาม พรรคพร้อมที่จะปฏิบัติตามกติกาทุกเรื่อง เพราะที่ผ่านมาพรรคไม่เคยหยุดรับฟังปัญหาของประชาชนและมีทางออกประเทศพร้อมเสนอต่อประชาชน หากมีการคลายล็อกให้ประชุมได้ก็จะเรียกประชุมทันที เพราะต้องเร่งแก้ข้อบังคับและการรับสมาชิก


Sharing

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่