พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีทำลายของกลางละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยมี พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพร้อมเอกอัครราชทูต ประจําประเทศไทย มาร่วมเป็นสักขีพยาน
ทั้งนี้มีของกลางทั้งสิ้น 2,101,347 ชิ้น มูลค่า ประมาณ 1,374 ล้านบาท มาจากสํานักงานตํารวจแห่งชาติ จำนวน 187,332 ชิ้น ศุลกากร จำนวน 1,732,965 ชิ้น และกรมสอบสวนคดีพิเศษ จำนวน 181,050 ชิ้น ประกอบด้วย เสื้อผ้ากระเป๋าเข็มขัดรองเท้านาฬิกาโทรศัพท์มือถือแผ่น CD /VCD แว่นตาเครื่องสำอางค์ หมวก และผ้าห่มเป็นต้น
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญและพัฒนาระบบการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะด้านการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพควบคู่ไปกับการรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้ประชาชนเคารพสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาซึ่งการดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่องส่งผลให้ประเทศไทยได้รับการปรับสถานะคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาภายใต้กฎหมายการค้าสหรัฐอเมริกามาตรา 301 พิเศษจากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ บัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง จึงขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกัน ปราบปรามตั้งแต่การผลิต การจำหน่าย การนำเข้าส่งออกอย่างจริงจัง
“เรายังคงทำต่อไปและไม่หยุดยั้งในการเข้มงวดทรัพย์สินละเมิดทางปัญญาขอให้ทุกคนช่วยกันเพื่อให้หมดไปเราจะได้มีสินค้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนตลาดชายแดนเราดำเนินการจับกุมหมดในทุกๆพื้นที่แต่ก็ยังมีเล็ดลอดแต่ก็พยายามจะไม่ได้มากที่สุด ทำไมเราเชื่อมั่นว่าข้าราชการจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวอย่างเด็ดขาด”พล.อ.ประวิตร กล่าว
อย่างไรก็ตาม การปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเป็นการผนึกกำลัง ประกอบด้วยกระทรวงพาณิชย์กรมทรัพย์สินทางปัญญากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรกองทัพบก กองทัพเรือ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ กรมศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมการปกครอง กรมประชาสัมพันธ์และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนเจ้าของ สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา
ขอบคุณ : ผู้จัดการ