นายวันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำวิทยาลัยรัฐกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยถึงภาพรวมการเมืองหลังการปลดล็อคการเลือกตั้ง ว่า จากการที่ประเทศไทยว่างเว้นจากการเลือกตั้งมานาน ส่งผลให้ประชาชนตั้งตารอการที่คสช.จะคลายล็อคการเมือง เพราะมีบรรยากาศและการมีส่วนรวมของประชาชนเปิดกว้างมาก ทั้งนี้ประชาชนมีความคาดหวังว่าคสช.จะเปิดให้มีเสรีภาพในการดำเนินกิจการพรรคการเมือง ซึ่งถึงวันนั้นเชื่อว่าคงจะเห็นหน้าค่าตากันว่าใครบ้างจะก้าวเข้ามาสู่ถนนการเมืองในอนาคต
ในขณะเดียวกันการแข่งขันทางการเมืองเชื่อว่าคงเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะในจังหวัดใหญ่ๆ ทั้งนี้ จากการที่กลุ่มสามมิตรประกาศว่าจะชนะการเลือกตั้งยกจังหวัดนครราชสีมานั้น ตนมองว่าคงเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่เคยมีใครหรือพรรคไหนทำได้ แม้ในช่วงที่พรรคไทยรักไทยยิ่งใหญ่ก็ไม่สามารถชนะทั้งจังหวัดได้ เชื่อว่ากลุ่มสามมิตรคงจะเป็นการประกาศเพื่อปลุกขวัญกำลังใจมากกว่า ในขณะเดียวกันบรรยากาศการเลือกตั้งในพื้นที่นครราชสีมาที่ผ่ามาก็เป็นถ้อยทีถ้อยอาศัยกันมากกว่าไม่เอาชนะกันแบบหักกันเลย
นายวันวิชิต กล่าวต่อว่า ในส่วนของภาพรวมการเมืองนั้น เชื่อว่าภายหลังการเลือกตั้งจะมีการแสวงหาพันธมิตรในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะด้วยระบบการเลือกตั้งรูปแบบใหม่ทำยากที่พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งจะมีคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภา ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องมีการจัดตั้งพรรคการเมืองเพื่อมาเป็นพันธมิตรขึ้นมา เพราะเป็นรูปแบบแนวคิดในการจัดตั้งพรรคการเมืองเพื่อกระจายความเสี่ยงก่อนที่จะมาร่วมมือกันหลังการเลือกตั้ง
นายวันวิชิต กล่าวด้วยว่า หลังการเลือกตั้งในการสรรหาตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตนเชื่อว่านักการเมืองคงมีการคุยกันตั้งแต่รอบแรกเพื่อนำเสนอนายกรัฐมนตรีที่มาจากรายชื่อในบัญชี และปิดทางการแทรกแซงของวุฒิสมาชิก ดังนั้น ตนเชื่อว่าบรรดาพรรคการเมืองจะรวบรวมเสียงให้ถึงจำนวนที่จะสามารถโหวตนายกรัฐมนตรีได้ ทั้งนี้ นักการเมืองส่วนใหญ่ จะไม่ยอมรับนายกรัฐมนตรีที่มาจากคนนอกอย่างแน่นอน ดังนั้น เชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะมาจากการเสนอรายชื่อของพรรคการเมือง เพราะจะส่งผลต่อศรัทธาของพี่น้องประชาชนด้วย