พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญาการตำรวจท่องเที่ยว ในฐานะ รองผู้อำนวยการ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอส.ตร.) ได้เดินทางไปยังเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อสอบปากคำ 12 ผู้ต้องหาที่ถูกศาลออกหมายจับในข้อหาแชร์ข้อความอันเป็นเท็จ กรณีแหม่มอังกฤษถูกมอมยาและข่มขืนบนเกาะเต่า จากเพจ สมุยไทม์ และ เพจ CSI LA ในฐานความผิดตาม ตามมาตรา 14(1) และ14(2) แห่ง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
โดยผู้ต้องหาทั้ง 12 คน ถูกคุมตัวไปที่ สภ.เกาะเต่า และยอมรับว่า กดแชร์โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จากนั้นพนักงานสอบสวน ได้ให้ผู้ต้องหาทั้งหมดประกันตัวในชั้นสอบสวนตามที่ร้องขอ ในวงเงินคนละ 60,000 บาท
ทั้งนี้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า ตำรวจไม่ใช่คู่กรณีกับใคร และมีหน้าที่ทำความจริงให้เป็นความจริง ซึ่งหากวันนี้ไม่จับกุม ก็จะมีผู้ที่แชร์อีก และประเทศชาติจะได้รับความเสียหาย โดยขั้นตอนหลังจากนี้ คงต้องรอการให้ปากคำ และพิจารณาพยานหลักฐานใหม่ ที่อังกฤษจะส่งมายังประเทศไทย และภายในเดือนกันยายนนี้ น่าจะมีความชัดเจน
ด้านนายวิญญัติ ชาติมนตรี เลขาธิการ สมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิเสรีภาพ(สกสส.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่มาถึงเกาะเต่า เราให้ความรู้ เสริมความเข้าใจ แนวทางการต่อสู้และข้อพิจารณาแก่ผู้ต้องหา โดยไม่มีการชี้นำ จึงมีบางคนที่ตั้งใจจะรับสารภาพเพราะเหตุผลในครอบครัวและความต้องการลดภาระ ในจำนวนหลายคนที่ปฏิเสธพร้อมต่อสู้คดี ด้วยเหตุผลว่าพวกเขาขาดเจตนากระทำความผิด และต้องการสร้างบรรทัดฐานที่ถูกต้องและต้องการยืนยันในสิทธิเสรีภาพของประชาชน
“ทุกคนได้กลับบ้าน แต่ต้องแลกกับอิสรภาพด้วยการขอประกันคนละ 60,000 บาท ในชั้นสอบสวน สภ.เกาะเต่า เราหวังว่าจะไม่มีรุ่นที่สอง เพราะนี้ 12 คนก็สร้างภาระแก่ประชาชนเกินสมควรแก่เหตุ” นายวิญญัติกล่าว