จังหวัดชลบุรี แบ่งออกเป็น 8 เขตเลือกตั้ง ที่ผ่านมา พรรคพลังชล ภายใต้การนำของ นายสนธยา คุณปลื้ม ยังเป็นเจ้าของพื้นที่ โดยการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 พรรคพลังชล กวาด ส.ส.ไปได้ 6 ที่นั่ง ส่วนที่เหลือ ถูกพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย แย่งเก้าอี้ ไปได้พรรคละ 1 คน ด้วยคะแนนที่ไม่ได้ทิ้งห่างกันมาก การเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น แม้จะมีหลายพรรคการเมืองขนาดใหญ่ ทัั้งเพื่อไทย ชาติพัฒนา และชาติไทยพัฒนา ส่งผู้สมัคร ส.ส.ลงแข่งขันกับ พรรคพลังชล ครบในทุกเขต แต่แนวโน้มผลการเลือกตั้ง ผู้สมัครจากพรรคพลังชล ถูกคาดว่าจะได้รับเลือกเป็น ส.ส.ในจำนวนที่ไม่แตกต่างไปจากปี 2554
การขับเคี่ยวกันระหว่างพรรคการเมืองในพื้นที่ชลบุรี ถือว่าเป็นการขยับทางการเมืองที่สำคัญสำหรับจังหวัดชลบุรี เมืองหลวงการท่องเที่ยวภาคตะวันออก หลังจากที่นายมานิตย์ ภาวสุทธิ์ อดีต ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ และนายภิญโญ ตั๊นวิเศษ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ตกลงปลงใจในการร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย ถือเป็นการปักธงพรรคภูมิใจไทยในพื้นที่แห่งนี้
ที่ผ่านมาพรรคพลังชล ภายใต้การนำของ “บิ๊กแป๊ะ” นายสนธยา คุณปลื้ม แกนนำพรรคพลังชล ในการเลือกตั้งปี 2554 สามารถกวาดจำนวนส.ส.ทั้งจังหวัดเข้าป้ายเป็นส.ส.ได้ทั้ง 6 คนและปาร์ตี้ลิสร์ 1 คน ประกอบด้วย สันต์ศักด์ จรูญ งามพิเชษฐ์ แบบบัญชีรายชื่อ สุชาติ ชมกลิ่น ชลบุรี เขต 1 อุกฤษณ์ ตั๊นสวัสดิ์ ชลบุรี เขต 2 รณเทพ อนุวัฒน์ ชลบุรี เขต 3 พันธุ์ศักดิ์ เกตุวัตถา ชลบุรี เขต 5 สุกุมล คุณปลื้ม ชลบุรี เขต 6 ประเมศร์ งามพิเชษฐ์ ชลบุรี เขต 7
นอกจากนี้ นายสนธยา เคยกล่าวว่า กลุ่มชลบุรี ที่ทำงานทางการเมืองมานั้น ประชาชนยังมองว่า ปัจจุบันบ้านเมืองเป็นแบบนี้ เราน่าจะทำของเราเอง เรามีความพร้อมที่จะทำของเราเอง จะได้ไม่ต้องไปอยู่ข้างใด เราอยู่ตรงกลาง แล้วทำงานทางการเมือง เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ตรงนี้จึงเป็นแรงผลักดันทำให้ กลุ่มชลบุรี พอได้รับเสียงสนับสนุน และ การผลักดันจากทุกๆ ส่วนในพื้นที่ชลบุรี ทำให้เราจัดตั้งพรรคการเมือง ถือว่าเป็นไปตามการสนับสนุนและข้อเรียกร้อง
แต่กระนั้นก็ตามในสนามการเมืองชลบุรีแล้วไม่มีอะไรแน่นอน เพราะที่ผ่านไม่ไม่ใช่ว่าบ้านใหญ่จะกวาดได้ทุกเขต เคยสอบตกก็มีมาแล้วในการเลือกตั้งปี 2550 ในการสมัครในนามพรรคชาติไทย นายสนธยา คุณปลื้ม เคยช็อคกับผลการเลือกตั้งมาแล้ว ถึงกับออกปากเลยว่า “รู้สึกมึนมากๆ ที่ลูกทีมของผม ที่ผมคิดว่าเป็นเต็งหนึ่งของพื้นที่พัทยาจะต้องมาได้รับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งในครั้งนี้ อันส่งผลให้ผู้ที่ลงสมัครถึงกับถอดใจ และยอมรับกับการพ่ายแพ้ในครั้งนี้ เพราะในประวัติไม่เคยมีมาก่อน”
ดังนั้นการในการเลือกตั้งปี 2562 ที่การเลือกตั้งในพื้ที่จังหวัดชลบุรี เป็นการต่อสู้กันมันแน่ เพราะทั้งเพื่อไทย ประชาธิปัตย์ พลังชล และภูมิใจไทย ก็หมายปักธงของแต่ละพรรคในพื้นที่ชลบุรี จึงเป็นสนามที่น่าจับตามองเป็นที่สุด
นายมานิตย์ ภาวสุทธิ์ อดีต ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวยอมรับว่า ช่วงนี้มีพรรคการเมืองมารุมจีบหลายพรรค จึงได้พิจารณาว่าพรรคใดเหมาะสม โดยเฉพาะจะเน้นในเรื่องชาวชลบุรีว่าจะได้รับประโยชน์อะไรหากเข้าไปสังกัดพรรคแล้ว พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคขนาดกลางสามารถร่วมทำงานกันได้กับทุกพรรคการเมือง ไม่ต้องมาแบ่งในเรื่องของสี ตรงนั้นแดง ตรงนี้เหลือง การทำงานจะง่ายกว่าเพราะเดินสายกลาง ส่วนการที่ได้ร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทยที่ผ่านมานั้น ถือว่ามีบุญคุณกับตนเหมือนกัน แต่การตัดสินใจเลือกพรรคภูมิใจไทยจะมีโอกาสดีกว่าที่ประชาชนในพื้นที่ จ.ชลบุรีจะได้รับประโยชน์
ขณะที่นายภิญโญ ตั๊นวิเศษ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ได้ตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แล้วกับพรรคภูมิใจไทย โดยมีนายมานิตย์ ภาวสุทธิ์ เป็นแกนนำ และจะส่งผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งครบทุกเขตเลือกตั้งทั้ง 8 เขต คาดว่าจะสรุปตัวผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งต้นเดือนกันยายนนี้ ส่วนตนเองจะลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 4 ชลบุรี ถึงแม้ว่าจะมีคู่แข่งคนสำคัญ อาทิ นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง พรรคเพื่อไทย นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ พรรคประชาธิปัตย์ และนายสุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรรักษ์ พรรคพลังชลเป็นคู่แข่งก็ตาม
นายสง่า ธนสงวนวงศ์ อดีต ส.ส.ชลบุรีหลายสมัย กล่าวว่า ช่วงนี้ทิศทางการเมืองไม่แน่นอน ส่วนการตัดสินใจจะลงพรรคไหนนั้น อยู่ที่การตัดสินใจของนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานจะไปสังกัดพรรคไหน เพราะเคยร่วมงานกันมาก่อน
เป็นอีกหนึ่งสนามการเมืองที่น่าจับตามอง ว่าสุดท้ายแล้ว บ้านใหญ่จะยังคงรักษาฐานเสียงตัวเองไว้ได้หรือไม่ และการแข่งขันครั้งนี้สุดท้ายใครจะกำชัยชนะ เป็นบทพิสูจน์ของ ตระกูล “คุณปลื้ม”ในสนามการเลือกตั้งอีกครั้ง
วัฒนา อ่อนปัง รายงาน