หน้าแรก news “นักวิชาการ” แนะพรรคชูสโลแกนโดนใจคนรุ่นใหม่ ชี้ ภท-พท. มาถูกทาง แต่ ปชป.ยังติดบ่วงวาทกรรมสาดโคลน

“นักวิชาการ” แนะพรรคชูสโลแกนโดนใจคนรุ่นใหม่ ชี้ ภท-พท. มาถูกทาง แต่ ปชป.ยังติดบ่วงวาทกรรมสาดโคลน

0
“นักวิชาการ” แนะพรรคชูสโลแกนโดนใจคนรุ่นใหม่ ชี้ ภท-พท. มาถูกทาง แต่ ปชป.ยังติดบ่วงวาทกรรมสาดโคลน
Sharing

นายสติธร ธนานิธิโชติ  นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ สถาบันพระปกเกล้า เปิดเผยถึงสถานการณ์ทางการเมือง ว่า ถึงเวลานี้พบว่าบรรดาพรรรคการเมืองมีการชูนโยบายในการหาเสียงกันบ้างแล้ว เท่าที่ติดตาม พบว่านโยบายของพรรคเพื่อไทยคือ ลดรายจ่าย สร้างรายได้ กับ พรรคภูมิใจไทย คือ ลดอำนาจรัฐเพิ่มอำนาจประชาชน  นับว่าตรงตามหลักการรณรงค์ทางการเมือง ซึ่งถือว่าได้ใจประชาชนในระดับหนึ่ง ที่เหลือคือการอธิบายเพิ่มเติมถึงวิธีการในทางปฏิบัติ และการบริหารจัดการ เพราะเชื่อว่าประชาชนเริ่มรับได้แล้ว ถือว่าการให้ประชาชนเข้าถึงอำนาจรัฐ ประชาชนจะรู้สึกว่าเขามีความเป็นเจ้าของมากขึ้น

ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ มีปัญหาในเรื่องของทิศทางที่เป็นสโลแกน ที่ประชาชนสามารถจับต้องได้ แต่ในความเป็นจริงพรรคประชาธิปัตย์จะเน้นในการสร้างวาทกรรมทางการเมืองมากกว่า ด้วยการไม่มีทิศทางที่ชัดเจนแต่เน้นมุมมองทางการเมือง คิดได้ว่ามันส่งผลให้หลายสิบปีที่ผ่านมา ประชาธิปัตย์ไม่เคยชนะเลือกตั้ง  ที่เป็นเช่นนี้เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีนโยบายที่เป็นรูปธรรม ไม่ก้าวข้ามวาทกรรมความขัดแย้งและการไม่ยอมที่จะก้าวข้ามนายทักษิณ ชินวัตร ดังนั้น สิ่งที่ตามมาคือประชาธิปัตย์ไม่ได้ใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ไม่ค่อยให้น้ำหนักกับสิ่งที่ประชาธิปัตย์ตอกย้ำ เพราะถือเป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว เขาเกิดไม่ทัน

นายสติธร ยังกล่าวถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์กำลังจะมีการประชุมเพื่อตั้งกรรมการบริหารพรรคใหม่ ซึ่งตอนนี้ต้องมองว่าในการเสนอรายชื่อจะเป็นใคร เพราะต้องยอมรับว่าระบบการสรรหาหัวหน้าพรรคของประชาธิปัตย์ เป็นอะไรที่เป็นอนุรักษ์นิยม ดังนั้น การเลือกหัวหน้าพรรคใหม่ที่มีการนำเสนอรายชื่อขึ้นมาเชื่อว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังคงมีโอกาสในการรักษาเก้าอี้หัวหน้าพรรคไว้ได้  ตราบที่ไม่มีการเสนอชื่อแปลกๆเข้ามาแทรก อย่างนายอลงกรณ์ พลบุตร เพราะเท่าที่ดูแคนดิเดตคนรอื่นๆ ก็เป็นคนของฝ่ายสนับสนุนนายอภิสิทธิ์อยู่ดี

“สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า เชื่อว่าหากพรรคประชาธิปัตย์แพ้การเลือกตั้งอีกครั้ง มีโอกาสที่นายอภิสิทธิ์ จะประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพราะไม่มีอะไรจะเสียเนื่องจากนายอภิสิทธิ์ก้าวสู่จุดสูงสุดของนักการเมืองแล้ว” นายสติธรกล่าว


Sharing

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่