น.ส.สุมิตรา ตั้งสมวรพงษ์ ฝ่ายวิจัย สถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในช่วง 6 เดือนหลังของปีว่า ผู้บริหารบจ.ส่วนใหญ่คาดว่าเศรษฐกิจไทยในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2561 มีแนวโน้มดีขึ้น โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในปี 2561 จะเติบโตอยู่ในช่วง 3-4% โดยบริษัทที่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตมากกว่า 4% มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น เป็นผลจากการดำเนินนโยบายการคลังและการใช้จ่ายภาครัฐ การท่องเที่ยว กำลังซื้อภายในประเทศ และเสถียรภาพของการเมืองในประเทศ ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2561 ได้แก่ กำลังซื้อภายในประเทศ เสถียรภาพการเมืองในประเทศ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แตกต่างจากการสำรวจครั้งก่อนที่มองว่าปัจจัยเสี่ยงต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยคือ ความผันผวนของเงินบาท เสถียรภาพของการเมืองในประเทศ และต้นทุนแรงงาน
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (11 ก.ย.61) ว่า วันนี้โครงสร้างพื้นฐานรถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แต่ค่ารถไฟ ค่าเดินทางหลายอย่างก็ขาดทุน ขสมก.ก็ขาดทุน เพราะเราขึ้นราคาไม่ได้มาหลายปี ก็ต้องขาดทุนอยู่อย่างนี้ จึงต้องสร้างกิจการใหม่ ไปกู้หนี้ยืมสินมา และหนี้เหล่านี้ต้องไม่เกินกฎหมายกำหนดคือ 60 เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) วันนี้ก็ 40 กว่าเปอร์เซ็นต์ แล้วเป็นหนี้ระยาวไม่ใช่หนี้ระยะสั้น ไม่มีผล เพราะเรามีเงินกองทุนสำรองของประเทศเยอะเป็นลำดับต้นๆของโลก นั่นแหละคือพื้นฐานความเข้มแข็งของเศรษฐกิจเรา เพียงแต่เราต้องใช้งบประมาณที่มีอยู่แต่ละปีอย่างไร
ขอบคุณ มติชน