ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจฯได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2561 เพิ่มขึ้นจาก 4.4% เป็น 4.6% หรืออยู่ในกรอบ 4.4-4.8% โดยคาดว่าเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง จะชะลอตัวลงเติบโตน้อยกว่าครึ่งปีแรกที่ขยายตัว 4.8%
สำหรับปัจจัยบวกในช่วงที่เหลือของปีนี้ มีทั้งปัจจัยการบริโภค การลงทุนในประเทศที่ปรับตัวดีต่อเนื่อง ขณะที่เศรษฐกิจโลกที่เติบโตต่อเนื่อง สนับสนุนให้ภาคส่งออกขยายตัวตาม โดยปีนี้คาดว่าการส่งออกจะขยายตัว 8.7% หรืออยู่ในกรอบ 8.4-9.0% เพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิมที่ 6%
ส่วนภาคการท่องเที่ยวยังมีส่วนสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย แต่เหตุการณ์เรือล่มที่จังหวัดภูเก็ต ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงหรือหายไปประมาณ 700,000 คน จึงคาดว่า ในปี 2561 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาประมาณ 38.8 ล้านคน จากเดิมคาดว่าจะมีจำนวน 39.5 ล้านคน
ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามคือ สงครามการค้าสหรัฐกับจีน มีแนวโน้มทวีความรุนแรงและยืดเยื้อ / อัตราดอกเบี้ยในตลาดโลกมีแนวโน้มขาขึ้น/ ความเสี่ยงจากวิกฤติค่าเงินในตลาดเกิดใหม่ / เหตุการณ์เรือล่มที่จังหวัดภูเก็ตซึ่งมีผลต่อความมั่นใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติ/ ความเสี่ยงจากสถานการณ์อุทกภัย และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง อาจทำให้ราคาน้ำมันดิบผันผวน แต่หากรัฐบาลจัดให้มีเลือกตั้งได้ในปี 2562 จะช่วยหนุนเศรษฐกิจไทยฟื้นดีขึ้น
เช่นเดียวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยายของธนาคารแห่งประเทศไทย ดร.ธนวรรธน์ คาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5% ตลอดปีนี้ เนื่องจากไม่มีแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ระดับต่ำ และคาดว่า กนง. น่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ในไตรมาส 2 ปี 2562 จาก 1.5% เป็น 1.75%. และอาจจะปรับขึ้นอีกครั้งในไตรมาส4 ปี 2562 มาอยู่ที่ 2%
ขอบคุณข่าว : สยามรัฐ