นายวัชระ กรรณิการ์ อดีตโฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงการตัดสินใจลาออกจากพรรคชาติไทยพัฒนา ว่า ได้ยื่นลาออกกับนายทะเบียนพรรคชาติไทยพัฒนา โดยระบุว่า สาเหตุที่ลาออกได้ตัดสินใจและกลั่นกรองอย่างดี ไม่มีอารมณ์มาเกี่ยวข้อง
มี 2 ปัจจัยหลัก คือ ที่ผ่านมามีจุดยืนที่จะทำงานให้กับ นายบรรหาร ศิลปอาชา จนกระทั่งยุติบทบาททางการเมืองในนามพรรคชาติไทยพัฒนา และถึงเวลาที่พรรคชาติไทยพัฒนาจะปรับโครงสร้างองคาพยพของพรรค แต่ไม่ใช่เพื่อหลีกทางให้คนรุ่นใหม่ และเชื่อมั่นว่าการลาออกจะไม่กระทบกับพรรคชาติไทยพัฒนา เพราะมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถจำนวนมาก ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง พร้อมยืนยันไม่มีปัญหาพรรค ผู้ใหญ่ทุกคนเป็นเหมือนครูให้ความเมตตา มีบุญคุณมาโดยตลอด
นายวัชระ กล่าวต่อว่า จากนี้จึงตัดสินใจเข้าร่วมงานทางการเมืองกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะชอบแนวคิดของ นายชวน ชูจันทร์ ผู้จัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ ที่ทำงานภาคสังคมเป็นวิธีคิดที่ใช้งานได้ จึงประสานไปยังผู้ใหญ่ที่รู้จักกับนายชวน เพื่อขอเข้าพบและยื่นความประสงค์เข้าร่วมงาน โดยยืนยันไม่มีเงื่อนไขใด แม้จะไม่มีบทบาททางการเมืองก็จะช่วยงานพรรค เพราะมองเป็นความท้าทายเป็นพรรคที่ดูแล้วมีอนาคต พร้อมยืนยัน แม้จะรู้จัก นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ มาเป็น 10 ปี แต่ไม่เคยทาบทามทางการเมือง ไม่ได้ถูกดูด เพราะไม่มีอามิสสินจ้างหรือตำแหน่งใดมาล่อ และจะไม่ขอรับตำแหน่งใดในรัฐบาลนี้
นายวัชระกล่าวด้วยว่า ส่วนตัวรอลุ้นว่า นายสมคิดและนายสนธิรัตน์ ถ้ามาร่วมพรรคก็จะเป็นเรื่องดี รวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพราะถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดในช่วงรอยต่อสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ และอนาคตที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อ และในที่ 20 ก.ย.นี้ ตนจะเข้าพรรคชาติไทยพัฒนาอีกครั้ง เพื่อนำพวงมาลัยดอกไม้ไปลา นายบรรหาร ศิลปอาชา ที่ห้องทำงานชั้น 2 ของที่ทำการพรรค และคาดว่าในสัปดาห์นี้จะเข้ายื่นใบสมัครกับพรรคพลังประชารัฐ