นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า ในปี 2562 กยศ. เตรียมงบให้กู้ 3 หมื่นล้านบาทแก่นักเรียน นักศึกษาใหม่และเก่าคาดว่ารองรับได้ 6 แสนคน โดย 2 ปีที่ผ่านมา กยศ. ใช้เงินของตัวเอง ไม่ได้ขอเงินงบประมาณในการปล่อยกู้ให้นักเรียน นักศึกษาแล้ว พร้อมคาดว่าในปี 2562 จะมียอดชำระหนี้เพิ่มมากกว่า 3 หมื่นล้านบาท จากในปี 2561 ที่คาดว่าจะมียอดชำระหนี้ 2.6 หมื่นล้านบาท
สำหรับมาตรการหักบัญชีเงินเดือน ซึ่งเริ่มแล้วกับข้าราชการกรมบัญชีกลาง และจะทยอยเริ่มกับข้าราชการและหน่วยงานที่มีบัญชีเดือนผ่านกรมบัญชีกลาง ขณะที่การหักบัญชีเงินเดือนของลูกจ้างบริษัทเอกชนที่อยู่ในระบบหักเงินเดือนซึ่งมีอยู่ราว 1 ล้านราย ในองค์กรนายจ้างกว่า 1 แสนบริษัท จะทยอยทำข้อตกลงโดยจะเริ่มโครงการองค์กรต้นแบบในปีหน้าทำร่วมกับธนาคาร บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงรัฐวิสาหกิจต่างๆ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี จึงจะสามารถดึงลูกหนี้ในบริษัทเอกชนเข้าระบบหักเงินเดือนได้หมด
นายชัยณรงค์ กล่าวด้วยว่า ได้ประสานกับหน่วยงานที่ครอบครองเลขหมายโทรศัพท์ เพื่อขอเบอร์โทรศัพท์ ในการติดตามทวงหนี้ทางโทรศัพท์ และจดหมาย โดยที่ผ่านมา กยศ. มีลูกหนี้ทั้งระบบ 4 ล้านราย แยกเป็นลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างชำระหนี้ 3 ล้านราย ซึ่งในจำนวนนี้มี 2 ล้านรายที่ชำระหนี้ไม่สม่ำเสมอ และลูกหนี้ ที่มีคดีอยู่ในชั้นศาล 1.12 ล้านคดี และในปี 2561 กยศ.ได้ดำเนินการฟ้องร้องคดีกับผู้กู้ที่ผิดนัดชำระหนี้ประมาณ 1.2 แสนราย ซึ่งมีการติดต่อขอประนีประนอมมากกว่า 80%
ส่วนกรณีครูวิภา บานเย็น ผอ.โรงเรียนบ้านห้วยน้อย ต.แม่ลาด อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ได้ค้ำประกันให้นักเรียนที่ยืมเงิน กยศ. 60 ราย ซึ่งที่ผ่านมาได้มีคนนำเงินมาบริจาคช่วยเหลือทำให้ ครูวิภา นำเงินมาชำระหนี้คืน กยศ.แทนลูกศิษย์เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ผลจากกรณีดังกล่าวทำให้ กยศ. เตรียมทบทวนเรื่องการค้ำประกันลูกหนี้ กยศ.ใหม่ ซึ่งปัจจุบันในจำนวนลูกหนี้ กยศ. 2.5 ล้านราย มีครูที่เป็นผู้ค้ำประกัน 0.17% หรือประมาณ 4 พันราย