จากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.ระบุว่าสนใจงานทางการเมืองนั้น นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ารพูดเช่นนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ ถือเป็นการเข้าใจผิด เพราะตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ ยึดอำนาจเข้ามาก็ถือว่าเข้ามาสู่เส้นทางทางการเมืองแล้ว ที่บอกว่าสนใจการเมือง น่าจะตีความได้ว่าต้องการสืบทอดอำนาจต่อ โดยเป็น 1 ใน 3 รายชื่อที่พรรคการเมืองจะเสนอเป็นนายกฯ ซึ่งพรรคการเมืองนั้นคือพรรคพลังประชารัฐใช่หรือไม่
นายวรชัย ระบุอีกว่า การเดินสายลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ เอางบประมาณไปแจงจ่ายในพื้นที่ต่างๆ เป็นการเดินสายหาเสียงก่อนพรรคอื่นๆ ที่ถูกห้ามไม่ให้ทำกิจกรรมใช่หรือไม่ อีกทั้งการที่ พล.อ.ประยุทธ์ เคยบอกให้ กกต.ตรวจสอบกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ วิดีโอคอลมาถึงสมาชิกพรรคเพื่อไทย ถือเป็นการใช้อำนาจที่มีอยู่กลั่นแกล้งพรรคเพื่อไทยหรือไม่
“เพราะมีข่าวว่าผู้มีอำนาจเตรียมการยุบพรรคเพื่อไทยภายในเวลา 90 วันก่อนการเลือกตั้ง เพื่อให้สมาชิกไปสมัครพรรคอื่นไม่ได้ เพื่อเปิดทางให้ท่านได้เป็นนายกฯ ใช่หรือไม่ เพราะผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุด พรรคเพื่อไทยยังเป็นพรรคอันดับหนึ่งที่ประชาชนจะเลือก หากเป็นเช่นนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ก็จะเป็นนายกฯ ไม่ได้ เมื่อวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะเล่นการเมืองต่อ ก็ไม่ควรถืออำนาจรัฏฐาธิปัตย์ต่อไป ควรให้คนที่มีความเป็นกลางมาทำหน้าที่แทนจะดีกว่า” นายวรชัยกล่าว
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.จรัญ ชิตะปัญญา รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อธรรม ทำหนังสือถึงคณะกรรมการบริหาร และสมาชิกพรรคเพื่อธรรม เพื่อเชิญประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1 ของพรรค และเพื่อร่วมกันออกขอบังคับพรรค ในวันที่ 30 กันยายนนี้
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์กันว่า การฟื้นพรรคเพื่อธรรมขึ้นมาปัดฝุ่นนั้น เพราะผู้นำระดับสูงของพรรคเพื่อไทย การประเมินกันแล้วว่า พรรคอาจจะเจออุปสรรคทางการเมือง อาจจะถูกเล่นงานจนถึงขั้นยุบพรรคจากกรณีการแถลงข่าวคนบรอบ 4 ปี คสช. จึงดึงพรรคเพื่อธรรมขึ้นมาหากเกิดกรณีไม่คาดฝัน
สำหรับผู้ที่ขับเคลื่อนพรรคเพื่อธรรมนั้น ประกอบด้วยบุคคลระดับอดีตรัฐมนตรี และสมาชิกพรรคในส่วนของภาคเหนือ และภาคอีสานของพรรคเพื่อไทย เป็นการเคลื่อนคู่ขนานกันไป ซึ่งอาจจะมีอดีตส.ส.ของพรรค หลายคน โยกย้ายตัวเองไปอยู่ในพรรคเพื่อธรรม หรือส่งตัวแทนลงไปอยู่ด้วย