มูลนิธิชีววิถี หรือไบโอไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก “BIOTHAI” ถึงสถานการณ์หลังออกมาต่อต้านการใช้สารพิษอันตราย อาทิ พาราควอต (Paraquat) ไกลโฟเซต (Glyphosate) และคลอร์ไพริฟอส (Chlorpyrifos)ในการกำจัดศัตรูพืช ว่า จากกรณีที่บรรษัทข้ามชาติสารพิษกำจัดศัตรูพืช ออกมาเคลื่อนไหวให้นักวิทยาศาสตร์ซึ่งได้รับรางวัลดีเด่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรยุติบทบาทและให้ลาออกจากนักวิชาการหลังจากได้เปิดเผยความจริงเกี่ยวกับการตกค้างของสารพิษพาราควอตในสิ่งแวดล้อม เมื่อต้นปี 2561 ที่ผ่านมา
ขณะนี้มีความพยายามเพื่อกดดัน BIOTHAI ให้ยุติบทบาทการเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับเบื้องหลังการคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืน ซึ่งคาดว่ามาจากโพสต์ของไบโอไทยที่เปิดเผยหนังสือการคัดค้าน ร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืน คำชี้แจงของคณะทำงานยกร่างของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อชี้แจงข้อคัดค้านของกลุ่มองค์กรดังกล่าว
ตลอดจนการเปิดเผยความจริงที่ระบุว่ากลุ่มที่คัดค้านร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืน ว่ามีบุคคลใดบ้าง และบุคคลดังกล่าวเกี่ยวข้องกับบริษัทค้าสารพิษ
รวมทั้ง สำเนาหนังสือดังกล่าวยังได้จัดส่งไปยัง นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธาน “คณะกรรมการแก้ปัญหาสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง”
เราเห็นว่าการกระทำดังกล่าว หวังใช้อำนาจของรัฐบาล ในการปิดปากการเปิดเผยความจริงของ BIOTHAI และนักวิชาการ ซึ่งมีเจตนาในการเปิดเผยข้อมูลเบื้องหลังการคัดค้านการแบนสารพิษตามข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุข และการสนับสนุนให้มีกฎหมายส่งเสริมเกษตรกรรมยั่งยืนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แทนที่จะเป็นการต่อสู้ทางนโยบายอย่างเปิดเผย โปร่งใส โดยใช้ข้อมูลทางวิชาการ หรือเหตุผลเชิงประจักษ์
หากการเปิดเผยของ BIOTHAI เป็นการบิดเบือนความจริง ให้ข้อมูลเท็จต่อประชาชน กรณีที่เปิดเผยชื่อผู้คัดค้าน พ.ร.บ.เกษตรกรรมยั่งยืน ว่าเกี่ยวข้องกับบริษัทใดบ้างนั้นก็สามารถนำข้อมูลที่แท้จริงมาเปิดเผยต่อประชาชน มิใช่การใช้อำนาจเถื่อนในฐานะที่กลุ่มธุรกิจบางกลุ่มใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจในรัฐบาลมาปิดปากประชาชน “BIOTHAI” ขอให้สัญญาต่อประชาชนว่า เราจะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับนักวิชาการ องค์กรภาคประชาสังคม องค์กรประชาชน