นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เปิดเผยความคืบหน้าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 5 โครงการหลักในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บอร์ดบีโอไอ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน นัดล่าสุดปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้พิจารณาอนุมัติในหลักการให้ส่งเสริมแก่ผู้ได้รับสัมปทานใน 2 โครงการ คือ โครงการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา และการจัดตั้งเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล(ดิจิทัล พาร์ค หรืออีอีซีดี)ซึ่งเป็น 2 โครงการสุดท้ายหลังจากที่ผ่านมาบอร์ดบีโอไอได้อนุมัติหลักการให้ส่งเสริมแก่ผู้ได้รับสัมปทานใน 3 โครงการก่อนหน้า คือ รถไฟความเร็วสูงเชื่อม3สนามบิน ท่าเรือแหลมฉบังเฟส3 และท่าเรือมาบตาพุดเฟส3 ซึ่งการอนุมัติในการหลักการให้ส่งเสริมแก่ผู้ได้รับสัมปทานดังกล่าวก็เพื่อรองรับการออกประกาศเชิญชวนเอกชนเข้าร่วมประมูล (ทีโออาร์) ของ 4 โครงการในรูปแบบรัฐร่วมทุนกับเอกชน(พีพีพี) ประกอบด้วย ท่าเรือแหลมฉบังเฟส3 ท่าเรือมาบตาพุดเฟส3 โครงการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา และเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล(ดิจิทัล พาร์ค หรืออีอีซีดี) ให้สามารถออกประกาศได้ภายในเดือนตุลาคมและพฤศิกายนนี้
นายนฤตม์ เปิดเผยอีกว่า ทั้ง 5 โครงสร้างพื้นฐานนั้นพบว่า รถไฟความเร็วสูงเชื่อม3สนามบินมีความคืบหน้ามากที่สุด เพราะได้ออกทีโออาร์และปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการประมูลซึ่งจะเปิดยื่นซองเดือนพฤศจิกายนนี้ ส่วนอีก 4 โครงการกำหนดว่า ท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ท่าเรือมาบตาพุดเฟส 3 และโครงการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา จะออกทีโออาร์ภายในเดือนตุลาคม ส่วนอีอีซีดีจะออกทีโออาร์เดือนพฤศจิกายน เพื่อให้ทั้งหมดได้ผู้ชนะการประมูลก่อนการเลือกตั้งเดือนกุมภาพันธ์ 2562
ขอบคุณข้อมูลจาก มติชน